เจาะลึกถึงแก่นแท้แห่งแฟชั่น
กับ Yoshiaki Ochiai สุดยอด Hair & Makeup Artist จากญี่ปุ่น
โลกแห่งความงามและแฟชั่นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า สไตล์การแต่งหน้า หรือทรงผมก็ล้วนแต่มีเวลาของมันทั้งนั้น จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ Hairworld Plus ฉบับนี้ได้ร่วมพูดคุยกับ Yoshiaki Ochiai (โอจิไอซัง) Hair & Makeup Artist สุดชิคแห่งแดนปลาดิบ หนึ่งใน Beauty Creation Center กลุ่มนักสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นของ Shiseido ที่มาแบ่งปันแนวความคิดของการเป็น Artist และเทรนด์ใหม่ๆ ที่จะทำให้เหล่าแฮร์สไตลิสต์ต้องร้องว้าว! รวมถึงได้เทคนิคเลิศๆ กลับไปใช้ในร้านของตัวเองอย่างแน่นอน
Hairworld Plus : กว่าจะมาเป็น Hair & Makeup Artist
โอจิไอซัง : แต่ก่อนผมเป็นพนักงานทั่วไป เวลาไปร้านตัดผม ก็รู้สึกว่าช่างตัดผมดูเท่ แล้วก็ทำให้ผมดูดีขึ้นได้ จึงเกิดความคิดว่าถ้าผมได้เป็นช่างทำผมบ้าง ก็จะทำให้คนอื่นมีความสุขได้เหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นพ่อผมคัดค้าน จึงล้มเลิกความตั้งใจไป แต่พอกลับไปทำงานอีกครั้งก็พบว่ามันไม่ใช่ตัวเอง ระหว่างที่ทำงาน จึงไปโรงเรียนที่สอนทางด้าน Beauty ได้ศึกษาอย่างจริงจัง ทั้งในเรื่องของการทำผม การแต่งหน้า การทาเล็บ การถ่ายรูปและทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแวดวงนี้ พอเข้าทำงานใน Shiseido ก็ได้เรียนในหลักสูตรของ Shiseido การอยู่ในจุดนี้ทำให้ผมรู้สึกอยากเรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับการก้าวไปข้างหน้าทีละขั้น จนได้รับเลือกเข้าร่วมกลุ่มสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นของ Shiseido ในฐานะ Hair & Makeup Artist ซึ่งผมก็ยังอยากเรียนรู้มากกว่านี้ และต้องการถ่ายทอดสิ่งที่เรียนมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทรงผม เทคนิคและความรู้ต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งแวดวงความงามให้คนอื่นได้รู้ด้วย
Hairworld Plus : การทำงานสไตล์โอจิไอซัง
โอจิไอซัง : ถ้าพูดถึงสไตล์ส่วนตัว ผมไม่ได้นำสไตล์ของตัวเองไปแมทช์กับนางแบบนะครับ แต่มักจะเริ่มจากการมองว่านางแบบเหมาะกับสไตล์ไหน แล้วจึงสร้างสไตล์ขึ้นมาให้เหมาะกับคนนั้นๆ เช่นเดียวกับตอนที่อยู่ในร้านซาลอน ผมมักคิดเสมอว่าจะดีไซน์อย่างไร เพื่อให้ลูกค้าแฮปปี้ที่สุด
“ถ้าพูดถึงการสร้างผลงาน ก็มักมีความยากลำบากเกิดขึ้นเสมอ แต่ท้ายที่สุดถ้าเราสามารถฝ่าฟันความทุกข์ยาก และทำจนสำเร็จ เราจะจดจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดียิ่งกว่า ไม่เฉพาะกับดีไซเนอร์เท่านั้น แต่คนที่เป็นแฮร์สไตลิสต์ ก็คงมีความรู้สึกนี้เช่นกัน เมื่อต้องทำงานที่ยากลำบาก แต่พอรับรู้ว่าลูกค้าถูกใจ ความรู้สึกนั้นจะประทับอยู่ในใจ ซึ่งถ้าแฮร์สไตลิสต์ทุกคนมีความรู้สึกนี้เป็นแรงผลักดัน แวดวงความงามในเรื่องของเส้นผมก็จะก้าวไปได้ไกล”
Hairworld Plus : รับผิดชอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Shiseido ทางด้านใดบ้าง?
โอจิไอซัง : ผมช่วยพัฒนาในเรื่องของสี ผลิตภัณฑ์ที่นำมาเซตผม สไตลิ่ง และผมยังดูแลในส่วนของคอสเมติก อย่างผลิตภัณฑ์ที่เป็นลิป แล้วก็อายเมคอัพด้วย
Hairworld Plus : เทรนด์สีผมที่โดดเด่นอยู่ในขณะนี้
โอจิไอซัง : เทรนด์สีผมที่โดดเด่นที่สุดในตอนนี้ คือ สีแดงที่มีความลึกและมีมิติ ซึ่งจะเข้ากันได้ดีกับเสื้อผ้าแฟชั่นสีแดงมะเขือเทศ หรือแดงเชอร์รี่ นอกจากนั้นลักษณะของสีผมที่กำลังมา จะไม่ใช่ลักษณะไฮไลท์ที่เป็นริ้วๆ อีกต่อไป แต่จะเป็นสีเดี่ยวๆ ที่ดูโดดเด่น โดยมีผลิตภัณฑ์ของ Shiseido ที่เข้ามาช่วยทำให้สีเด่นชัด ที่เรียกว่า Extra color ซึ่งจะมีทรีตเมนต์ที่คอยช่วยบำรุงผม เพื่อให้ผมพร้อมที่จะรับสารเคมีเข้าไป และทำให้สีผมสวยงามมากยิ่งขึ้น
Hairworld Plus : เทรนด์สีระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย
โอจิไอซัง : เทรนด์สีของผู้หญิงเป็นโทนสีแดง ส่วนของผู้ชายจะเป็นโทนสีสว่าง ซึ่งมีที่มาจากเทรนด์แฟชั่นทั่วโลก โดยผู้หญิงจะให้ความรู้สึกเข้มแข็ง ส่วนผู้ชายก็จะเป็นเทรนด์ที่เข้ามาบาลานซ์กัน ซึ่งไม่ใช่แนวแข็งแกร่ง แต่จะเป็นแนวรักอิสระและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เทรนด์เรื่องสีของผู้หญิงจึงเป็นโทนจัดจ้าน ส่วนผู้ชายก็จะดรอปลงมา
สำหรับฤดูกาลนี้ Shiseido ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นการแต่งหน้าและทำผมช่วง Autumn-Winter 2017 ในธีม Bold Mode ซึ่งคุณ Yoshiaki Ochiai ได้มีโอกาสเข้าร่วมในคอลเลคชั่นนี้ด้วย
Hairworld Plus : พูดถึงคอลเลคชั่นก่อนหน้า VS คอลเลคชั่นปัจจุบัน
โอจิไอซัง : สำหรับคอลเลคชั่นในฤดูกาล Autumn-Winter 2017 นี้มีไอเดียมาจากการที่เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังย่ำแย่ ทำให้คนทั่วโลกเกิดความไม่มั่นคงในจิตใจ คนส่วนใหญ่จึงต้องการการปกป้องและอยากแข็งแกร่งขึ้น ความรู้สึกเหล่านี้ล้วนส่งผ่านไปถึงแฟชั่นในคอลเลคชั่นปัจจุบัน ที่แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งจากภายใน จนเกิดเป็นธีม Bold Mode ที่หมายถึงความแข็งแกร่ง ซึ่งจะแตกต่างจากช่วง Spring-Summer ที่ผ่านมา ซึ่งยังเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
Hairworld Plus : ส่วนร่วมในคอลเลคชั่นนี้ (Autumn-Winter 2017)
โอจิไอซัง : ผลงานของผมเป็นแฟชั่นทรงผมที่ชื่อว่า Mullet style ซึ่งผมทรงนี้ด้านบนจะสั้น แต่เพิ่มลูกเล่นตรงช่วงคอ ถ้าหากดูจากคอลเลคชั่นนี้ เราจะสังเกตได้ว่ามันค่อนข้างมีความโดดเด่นและแหวกแนวในเรื่องของสไตล์ แต่จริงๆ แล้ว ผมสามารถดึงจุดเด่นไปใช้กับลูกค้าในร้านของตัวเองได้ โดยทาง Shiseido เองก็มีนิตยสารที่เป็นสไตล์แฟชั่นของลูกค้าทั่วๆ ไป ซึ่งจะเป็นลุคที่ดูธรรมดากว่านี้ แต่เมื่อเป็นส่วนของคอลเลคชั่น ผมต้องตีภาพออกมาให้ชัดเจนว่าคอลเลคชั่นนี้มีแนวทางแบบไหน เพราะหากไม่ชัดเจน วงการแฟชั่นจะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้
Hairworld Plus : เดินทางเวิร์คช็อปต่างประเทศ มีความแตกต่างอย่างไร?
โอจิไอซัง : ผมเดินทางไปเวิร์คช็อปมาแล้ว 7 ประเทศทั่วเอเชีย รวมถึงในญี่ปุ่นเองก็ด้วย ถ้าถามว่าอะไรคือความแตกต่าง อาจตอบได้ยาก เพราะแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันเยอะมาก แต่หนทางดีที่สุดที่จะทำให้เห็นถึงความแตกต่าง ก็คือเวลาไปต่างประเทศ ผมจะเข้าไปสำรวจตามบ้านเมือง เพื่อให้เห็นว่าแฟชั่นหรือทรงผมที่นั่นเป็นอย่างไร ในการจัดงานเวิร์คช็อปแต่ละรอบก็ต้องจัดให้เข้ากับบ้านเมืองนั้นๆ
Hairworld Plus : พูดถึงคนไทย
โอจิไอซัง : คนไทยมีมนุษยธรรมและจิตใจดี ผู้หญิงไทยดูใส่ใจในเรื่องของความงาม สังเกตได้จากเสื้อผ้าที่สวมใส่ และการแต่งหน้า
Hairworld Plus : ความแตกต่างของสไตล์การเมคอัพ ไทย VS ญี่ปุ่น
โอจิไอซัง : ในส่วนของการเมคอัพจะเห็นได้ว่าแตกต่างกันอย่างชัดเจน คนญี่ปุ่นมองว่าคนไทยแต่งตาเก่งมาก เพราะผู้หญิงญี่ปุ่นจะแค่กรีดอายไลเนอร์ แต่งตาแค่เบาๆ เท่านั้น แต่อาจเป็นเพราะผู้หญิงไทยคิ้วเข้มกว่าผู้หญิงญี่ปุ่น เลยต้องทำให้ส่วนอื่นโดดเด่นขึ้นมา จึงพยายามแต่งตาให้ชัดๆ
Hairworld Plus : ผลงานหรือรางวัลที่น่าจดจำที่สุด
โอจิไอซัง : ผมคิดว่าน่าจะเป็นผลงานล่าสุด เพราะเวลาผมทำผลงานออกมาสักชิ้นหนึ่ง ผมก็มักจะรู้สึกพึงพอใจแล้ว แต่ผมอยากทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นผลงานชิ้นต่อไปจะต้องดีกว่าเดิม ผลงานที่ดีและประทับใจที่สุดจึงเป็นผลงานล่าสุดไปโดยปริยาย นอกจากนี้สิ่งที่ผมทำเป็นประจำ ก็คือการลองท้าทายสิ่งใหม่ๆ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงาน
เริ่มต้นด้วยแรงบันดาลใจ แต่เติบโตด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ จึงทำให้ Yoshiaki Ochiai ก้าวสู่ความสำเร็จของการเป็น Hair & Makeup Artist และไม่เคยหยุดท้าทายความสามารถของตัวเองจนถึงที่สุด Hairworld Plus ต้องขอขอบคุณ Shiseido ที่มอบโอกาสดีๆ ให้แก่แฮร์สไตลิสต์ไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแฮร์สไตลิสต์รุ่นใหม่จะได้รับแรงบันดาลใจใหม่ๆ จากแนวคิดของ Artist ที่ยอดเยี่ยมคนนี้
