Schwarzkopf Professional (ชวาร์สคอฟ โปรเฟสชั่นแนล) ผู้นำผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมระดับโลก จัดทริปสุด Exclusive บินลัดฟ้าไปแดนปลาดิบกับ SKP Family Trip 2024 in JAPAN เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากสถานการณ์โควิดได้คลี่คลาย โดยการจัดทิปครั้งนี้ได้มีขึ้นในวันที่ 4-9 มีนาคมที่ผ่านมา นำทีมโดย คุณธีรศักดิ์ ไตรทิพย์ General Manager – Henkel Consumer Brands – Thailand GM ใจดี พร้อมด้วยคุณกิ๊ก รวิสรา เกียรติชัยรินทร์ ผู้จัดการแบรนด์ทีมเฮงเค็ล บิวตี้แคร์ โปรเฟสชั่นแนล, อ.ป๋อง วิวัฒน์ เกษมอมร ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ เฮงเค็ล บิวตี้แคร์ โปรเฟสชั่นแนล ได้นำครอบครัวชวาร์สคอฟถึง 45 ชีวิต ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมอัพเดตเทรนด์แฟชั่นสีผมและเทคนิคสุดล้ำ ที่ ASK Academy
โดยมีเหล่าช่างผมชื่อดังมากมาย เริ่มจาก ดร.สมศักดิ์ ชลาชล Honorably Advisory President of Schwarzkopf Professional และ Schwarzkopf Professional Color Ambassador 3 ท่าน ได้แก่ คุณแอน อรไพลิน วงษ์ประเสริฐ แห่ง SALON DIO, คุณแอนนา นีรนุช ขอเหล็กกลาง แห่ง Million Salon, คุณแบล็ค เอริตรา ขุนอาจ แห่ง Black Hair Salon ร่วมด้วย คุณโจ้ ประสิทธิ์ เชื้อหงษ์ แห่ง The Gray Salon, คุณดา ทิวาพร สุชินโรจน์ แห่ง So Real Salon, คุณโอ๋ กุศลิน สารสม แห่ง AOH Gallery Hair Station และอีกมากมาย
เริ่มต้นวันแรกครอบครัวชวาร์สคอฟได้เดินทางไปยังสนามบินฮาเนดะ มุ่งตรงไปสู่ เมืองจิจิบุ แวะชมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่วัดเฮรินจิ ซึ่งเป็นวัดนิกายเซ็น หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงก็เดินทางต่อไปยัง คุซัตสึออนเซ็น เมืองออนเซ็นที่สวยที่สุดในจังหวัดกุนมะ คลุ้งไปด้วยไอน้ำขาวพวยพุ่งสัญลักษณ์ใหญ่กลางเมือง ซึ่งคุซัตสึออนเซ็นยูบาทาเกะสายน้ำร้อนที่ไหลไปตามรางไม้พร้อมปล่อยไอน้ำที่เป็นแหล่งกำเนิดน้ำพุร้อนเป็นจุดกำมะถันพุ่งออกจากบ่อน้ำพุร้อน ช่วยสร้างบรรยากาศให้สมกับเป็นเมืองออนเซ็น
จากนั้นเราได้เดินทางต่อไปที่หมู่บ้านออนเซ็นในเมืองมินาคามิ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของจังหวัดกุนมะ เป็นแหล่งออนเซ็นชั้นแนวหน้า โดดเด่นเรื่องกิจกรรมกลางแจ้งทางธรรมชาติ แหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น ความพิเศษของทริปในครั้งนี้คือเราได้สัมผัสอากาศที่หนาวเย็นท่ามกลางหิมะขาวโพลน วิวทิวทัศน์สวยงามเหมือนอยู่ในเทพนิยาย พร้อมลงแช่น้ำพุร้อนออนเซ็นในอุณหภูมิติดลบเป็นครั้งแรก! สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมทริปทุกคนให้ได้สดชื่นกันอีกครั้ง
และในช่วงรับประทานอาหารค่ำเป็นการทานอาหารในแบบต้นตำหรับญี่ปุ่นในชุดยูกาตะ คุณธีหรือพี่ธี GM อารมณ์ดี ก็ได้กล่าวต้อนรับครอบครัวชวาร์สคอฟ โดยกล่าวว่า
“เราได้จัดทริปขึ้นทุกปีสำหรับ Partner ที่มี Loyalty ให้กับแบรนด์ ถือว่าเป็น “ครอบครัวชวาร์สคอฟ” ครอบครัวที่อบอุ่นและแข็งแรงพร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นทริปแรกที่ได้เจอกันหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ก็อยากจะอัพเดตว่าที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรไปบ้าง เนื่องจากเราได้ควบรวม Shiseido Professional มาไว้ด้วยกัน เราจึงได้ผนึกกำลังสร้างเทรนด์ขึ้นมาเพื่อที่จะเป็น Color Trend Leader เป็นการตอกย้ำเรื่องความเป็น Leadership in Color หรือ ผู้นำเรื่องสีผม ครั้งนี้ทุกท่านจะมาเรียนที่ ASK Academy Tokyo มอบความรู้จาก Hairstylist ชื่อดัง เพราะเราให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา และนวัตกรรม (Education & Innovation) เราต้องการสร้าง Hub Hair Fashion แห่งเอเชีย Henkel ได้เข้าซื้อกิจการแบรนด์ Vidal Sassoon ในประเทศจีนแล้ว เริ่มจะเน้นการสร้างหลักสูตร เรื่องของการศึกษา เป็น J Beauty Innovation Hub เราอยากจะสร้าง Partnership ที่เข้มแข็งไปด้วยกัน… ให้มั่นใจว่าช่างผมไทยมีความสามารถ…ไม่ต้องไปไหน แต่ให้เมืองไทยเป็น Center ที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ และสิ่งเหล่านี้ก็จะก่อให้เกิดคอมมูนิตี้ ที่สร้างความเป็น Loyalty พร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกัน”
ต่อด้วย ดร.สมศักดิ์ ได้กล่าวและให้ข้อคิดอย่างน่าประทับใจ “แม้เราจะทำสายอาชีพเดียวกัน และทำธุรกิจเหมือนกันแต่ก็ยัง Support กันได้ เพราะทุกคนคือครอบครัว เป็นพี่น้องกันหมด การที่จะทำให้เราอยู่ในวงการนี้ได้นาน ต้องมีความจริงใจต่อกัน อยู่วงการนี้มา 50 ปี ก็ใช้ชวาร์สคอฟมา 50 ปี เพราะเรามี Loyalty ให้กับแบรนด์ที่อยู่ยาวนานกว่า 120 ปี เค้าเติบโตมาได้อย่างไร ผ่านวิกฤตมามากมาย และยังคงเป็นแบรนด์ระดับโลก ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่เราต้องศึกษาไว้ สุดท้ายอยากจะฝากไว้ว่า ช่างผมไทยเรามีฝีมือเก่งมาก เราควรจะหันมาสนับสนุนกันเอง ให้ต่างชาติได้มาเรียนกับเรา อยากจะผลักดันอุตสาหกรรมช่างผมไว้ให้ตราบนานเท่านาน”
จากนั้นก็ได้เชิญช่างผมหลายคนมาพูดถึงความรู้สึก และประสบการณ์ สิ่งที่ได้รับจาก SKP โดยแต่ละคนต่างก็รู้สึกรักและผูกพันกับทางแบรนด์ ที่ได้ให้โอกาสผลักดัน ส่งเสริมให้ความรู้จนตัวเองได้พัฒนาต่อยอด และกลายเป็นช่างผมที่ประสบความสำเร็จถึงทุกวันนี้ อาทิ คุณแอนนา จาก Million Salon ได้พูดอย่างน่าสนใจว่า “ได้ไปเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแสดงผลงานที่ประเทศเยอรมันมา ได้เจอช่างผมจากทั่วโลกถึง 40 ประเทศ และภูมิใจที่ประเทศไทยเป็นจุดสนใจของต่างประเทศ ได้ประสบการณ์ที่ดีเยอะมากๆ” ส่วนคุณแบล็ค จาก Black Hair Salon ก็ได้ให้กำลังใจช่างผมได้ดีมาก “จากเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะทำไม่ได้ ขอบคุณทาง SKP ที่สนับสนุนมาตลอด” บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและมิตรภาพที่ดี เต็มไปด้วยกำลังใจและแรงบันดาลใจเหมือนได้มาพักผ่อนและชาร์ตพลังไปในตัว
วันต่อมา เราได้เดินทางต่อไปยังช่องเขาชิโยสุ ชมอุโมงค์แห่งแสง เมืองโทคามาจิ เป็นอุโมงค์เก่าแก่ที่เคยถูกปิดร้างเนื่องจากเกิดหินถล่มเมื่อในอดีต แต่ปัจจุบันนี้กลายเป็นจุดแสดงผลงานศิลปะระดับโลก ภายใต้ชื่อ Tunnel of Light ผลงานของชาวจีนชื่อ Ma Yansong โดยทางเดินจะจัดแสงเป็นสีต่างๆ ในแต่ละจุดก็สามารถแวะชมวิวที่มองออกไปเห็นแม่น้ำ KIYOTSU หุบเขาและชั้นหินต่างๆ สวยงาม ซึ่งที่นี่เป็นหุบเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นด้วย
จากนั้นเราเดินทางกันต่อสู่เมืองอิคาโฮะ จังหวัดกุนมะ เมืองอิคาโฮะนับว่ามีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน ขึ้นชื่อในฐานะที่เป็นหมู่บ้านออนเซ็นบันไดหิน ซึ่งตรงกลางหมู่บ้านเป็นที่ตั้งของบันไดหินกว่า 365 ขั้น ทั้งสองข้างทางเรียงรายไปด้วยเรียวกังและร้านจำหน่ายของฝากมากมาย ทำให้สัมผัสถึงบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคราวกับย้อนเวลากลับไปในญี่ปุ่นเมื่อ 50 ปีก่อนได้อย่างเต็มอิ่ม เราเดินขึ้นบันไดไปยังศาลเจ้าอิคาโฮะเพื่อขอพรโชคลาภ และชมทิวทัศน์อันงดงาม จุดรับพลังงาน ผู้คนในท้องถิ่นมีความเชื่อถือกันว่าศาลเจ้าอิคาโฮะ ชาวท้องถิ่นกล่าวกันว่าการปีนบันไดหิน 365 ขั้นของอิคาโฮะเพื่อขึ้นไปยังศาลเจ้าจะนำโชคลาภมาให้และช่วยแก้เคล็ด เมื่อขึ้นไปถึงขั้นบนสุด จะพบกับศาลเจ้าอันงดงาม
วันที่ 3 เราเดินทางเดินทางสู่ ไซตามะ เข้าเมืองแวะละลายทรัพย์กันที่ FUKAYA HANAZONO PREMIUM OUTLET สวรรค์แห่งการช้อปปิ้งแห่งใหม่ ก่อนจะเดินทางสู่กรุงโตเกียวไปยัง SHIBUYA SKY หนึ่งในจุดเช็กอินใหม่ของโตเกียว ชมทิวทัศน์ของโตเกียวได้รอบ 360 องศา ดื่มด่ำกับบรรยากาศบนชั้นดาดฟ้า สูง 229 เมตร จากนั้นก็แยกย้ายกันไปช้อปปิ้งที่ย่าน SHIBUYA ศูนย์กลางของวัยรุ่นโดยเฉพาะในด้านแฟชั่น
เข้าวันที่ 4 เริ่มต้นวันด้วยการไหว้พระขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นอีก Destiny ที่ทุกคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นต้องไป คือ วัดอาซากุซะ หรือ วัดโคมแดง วัดที่เหล่าโชกุนและซามูไรให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ซึ่งมีโคมไฟสีแดงที่ได้ชื่อว่าเป็น “โคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จก็ถึงเวลาละลายทรัพย์อีกครั้งที่ย่านชินจุกุ ย่านชุมชนชั้นแนวหน้าของโตเกียว จบ Dinner กันที่ร้านปิ้งย่าง แต่ดินเนอร์คราวนี้ไม่ธรรมดา เพราะได้เจอกับเพื่อนร่วมทริป และช่างผมชื่อดังที่มากับทางชิเซโด้ นำทีมโดยคุณตา กันต์ตารัตน์ สิริภัทรคุณ หัวหน้าฝ่ายขายและการตลาด เฮงเค็ล บิวตี้แคร์ และ คุณแอม อรวดี วิวัฒนาภา PPS & ASK ผู้จัดการฝ่ายดูแลความงามเฮงเค็ล บิวตี้แคร์ โปรเฟสชั่นแนล เรียกว่าดินเนอร์ในครั้งนี้ บ. Henkel เหมาทั้งร้าน จบด้วยการร่วมฉลองดินเนอร์เบาๆ ด้วยการเป่าเค้กวันเกิดให้กับทุกท่านที่เกิดในเดือนนี้และใกล้เคียง สร้าง Moment ที่ประทับใจให้กับทุกคน
วันสุดท้าย วันแห่งการเติมความรู้ เราเดินทางไปยัง ASK ACADEMY เพื่อไปอัพเดตแฟชั่นสีผมเทรนด์ล่าสุด Looks & Learn At ASK ACADEMY TOKYO by Macky Hair กับ Mr. Hiromasa Omaki ช่างผมชื่อดังชาวญี่ปุ่น ได้สอนเทคนิคการทำสีผม ได้ความรู้กันไปอย่างจุกๆ ต่อด้วยการช้อปปิ้งอุปกรณ์เสริมสวยที่ MASUDA ZOU HONTEN HAIR ACCESSORIES SHOP ปิดท้ายด้วยการช้อปปิ้งที่ AEON MALL เป็นห้างใหญ่มีทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งของถูก ให้ได้ซื้อของฝากกันอย่างจุใจ ก่อนเดินทางกลับ
เป็นอีกหนึ่งทริปที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความอบอุ่น รอยยิ้มความสนุกสนาน และความประทับใจของบรรดาช่างผมครอบครัวชวาร์สคอฟ ขอบคุณ คุณธีรศักดิ์ GM ใจดี และทีม SKP ทุกท่านที่ดูแล Hairworld เป็นอย่างดี เชื่อว่าช่างผมไทยโดยการสนับสนุนของ SKP ยืนหนึ่งไม่แพ้ใครในโลกแน่นอน สำหรับใครพลาดทริปนี้ไม่ต้องเสียใจ เราเก็บภาพประทับใจมาฝากกันแบบเต็มอิ่ม และใครที่สนใจร่วมกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ติดตามข่าวสารกันได้ที่ Facebook Page : Schwarzkopf Professional Thailand และ Facebook Page : Hairworld Plus+