การสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามให้ประสบความสำเร็จนับว่าเป็นเรื่องยาก และยิ่งในตลาดโลกด้วยแล้วถือเป็นความท้าทายอย่างมาก ทว่า “Silk Active” ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่เกิดจากนวัตกรรมการวิจัยสารสกัดจากแผ่นใยไหมซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรในระดับนานาชาติได้ก้าวเข้าไปยังตลาดระดับโลกได้สำเร็จในระดับซึ่งน่าพอใจ นอกจากนั้น ยังส่งเสริมการเกษตรด้านหม่อนไหมไทย ซึ่งจะมีการพัฒนาต่อยอดในผลิตภัณฑ์หลายแขนงอีกด้วย คุณบูน สุวังกูร ผู้บริหารบริษัทซิ้ลค์ แอ็คทีฟ จำกัด นักธุรกิจที่คร่ำหวอดในวงการมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมส่งออก โดยเฉพาะธุรกิจการส่งออกชาใบหม่อนไปยังประเทศญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และปัจจุบันกับเป้าหมายในการผลักดันวงการหม่อนไหมไทย เพื่อสร้างคุณค่าต่อสุขภาพของคนทั่วโลกผ่านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม Hairworld Plus จึงอยากพาทุกท่านมาทำความรู้จัก พร้อมทั้งเรียนรู้แนวคิดและหลักการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเป้าหมายของแบรนด์ในอนาคต…
เส้นทางในวงการธุรกิจ
ผมเรียนมาทางเศรษฐศาสตร์และเรื่องบัญชีต้นทุน จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งานแรกที่ทำเป็นงานบริษัทในเครือ Berlii Jucker แต่ทำอยู่ 2-3 ปีก็ตัดสินใจออกมาทำธุรกิจสำนักงานบัญชี จากนั้นได้เข้ามาทำด้านอุตสาหกรรมรองเท้าส่งออกไปยังอังกฤษและออสเตรเลีย จนตอนหลังจึงมาทำตลาดในประเทศ โดยมีบริษัทที่ชื่อ Fashion Value ที่ตอนนี้ก็ยังทำด้านรองเท้าให้แบรนด์ Jaspal และ Jelly Bunny และกระเป๋าของแบรนด์ LYN นอกจากนี้ ผมได้ลงทุนทำอุตสาหกรรมหม่อนไหมตั้งแต่ปี 2531 โดยเป็นหุ้นส่วนหนึ่งในบริษัท ไทยซิ้ลค์ โปรดักส์ จำกัด ซึ่งทำอุตสาหกรรมสาวเส้นไหมส่งให้โรงงานทอผ้าไหมที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นโรงงานราตรีไหมไทย และจิม ทอมป์สัน แต่ในช่วงปี 2535 ประสบปัญหาเรื่องโควต้าของรัฐบาลที่นำไหมเข้ามา ทำให้ไหมไทยสู้ราคาต่างประเทศไม่ได้ เราจึงเปลี่ยนมาทำชาใบหม่อนส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถครองตลาดได้ถึง 50% เพราะต้นหม่อนของไทยมีคุณภาพดี นับว่าบริษัทประสบความสำเร็จในเรื่องต้นหม่อนใบหม่อนก็เลยทำให้เราทำมาจนถึงปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Silk Active
บริษัทซิ้ลค์ แอ็คทีฟ จำกัด เพิ่งก่อตั้งมาได้ 2 ปีกว่า เพื่อต่อยอดโครงการใหม่จากบริษัท ไทยซิ้ลค์ โปรดักส์ จำกัด ที่ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีทำการศึกษาวิจัยสารออกฤทธิ์จากแผ่นใยไหมเมื่อปี 2552 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. กว่า 61 ล้านบาท จนค้นพบว่ามีสารออกฤทธิ์ ‘Silk Active’ หลายชนิดที่มีคุณค่าสูงและส่งผลดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อาหารเสริมสุขภาพ และยา จึงได้ยื่นขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตรนานาชาติ และงานวิจัยดังกล่าวยังได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติกว่า 12 ฉบับ เราจึงได้ก่อตั้งบริษัท ซิ้ลค์ แอ็คทีฟ จำกัด ขึ้นมาเพื่อพัฒนาและผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพจากสารสกัดดังกล่าวภายใต้แบรนด์ “Silk Active” โดยในปี 2560 ได้นำสินค้าเฟสแรก คือ ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงามในกลุ่ม Skin Serum ไปโชว์ในงานแสดงสินค้าที่ประเทศฝรั่งเศส และงาน ASEAN Beauty ที่ไบเทค กรุงเทพฯ ปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะคู่ค้าในต่างประเทศหลายรายได้ติดต่อมาจนได้มีการเซ็นสัญญาซื้อขายและแต่งตั้ง Exclusive Agent กับคู่ค้าในประเทศอังกฤษและเนเธอร์แลนด์แล้ว นอกจากนี้ ยังมีคู่ค้าอีกหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นจากยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไต้หวัน และประเทศในอาเซียนนัดหมายเจรจาและขอข้อมูลสินค้ากันอยู่ ส่วนในประเทศไทยก็เริ่มมีผู้แทนติดต่อเข้ามาหลายสิบราย
กลยุทธ์หลักของแบรนด์ในการบุกตลาด
สินค้าของ Silk Active ผลิตจากสารสกัดจากแผ่นใยไหมที่มีคุณภาพจริงๆ และเป็นงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในต่างประเทศ เมื่อสินค้าของเรามีคุณภาพก็จะทำการตลาดได้ในระยะยาว และอยากทำให้ยั่งยืน เพื่อจะได้ไม่สูญเปล่าเรื่องการลงทุน โดยต้องเน้นเรื่องการสื่อสารความรู้เกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารสกัดนี้ เราจึงอยากเน้นตลาดต่างประเทศก่อน เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคในต่างประเทศจะมีการศึกษาตัวสินค้าก่อนซื้อ ซึ่งสอดคล้องกับ Target Group ที่เราต้องการ และหากทำตลาดในต่างประเทศได้ราบรื่นต่อจากนี้ไปสัก 1 ปี ก็คงจะกลับมามองว่าเราจะทำตลาดในประเทศอย่างไร ตอนนี้ได้เริ่มทดลองตลาดโดยการออกงานแฟร์ต่างๆ และทำเว็บไซต์เพื่อให้คนมาลองซื้อ
เป้าหมายของแบรนด์ในอนาคต
เป้าหมายของผมคือการทำให้หม่อนไหมไทยไปสู่ตลาดโลกเพื่อสุขภาพของคนทั่วโลก
ความสำเร็จของแบรนด์ที่ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจ
ถ้าโครงการที่เราทำวิจัยร่วมกับ สวก.นี้ประสบความสำเร็จไปถึงตลาดโลก ทำให้คนทั่วโลกได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Silk Active ก็จะทำให้เราภูมิใจว่าได้ทำสินค้าที่มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ตั้งแต่เกษตรกรไปจนถึงผู้บริโภค โดยเกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่นำไปต่อยอดได้ทั้งในเรื่องของผ้าไหมและสินค้าเพื่อสุขภาพ ในส่วนผู้บริโภค ขณะที่สารสกัดที่มีประสิทธิภาพจากใยไหมก็จะเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ผู้บริโภคจะได้ใช้ของดี มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสมและยุติธรรม
มุมมองต่อธุรกิจความงามและเส้นผมในปัจจุบัน
เทรนด์เรื่องการรักสุขภาพยังเป็นที่นิยม ภาพรวมของตลาดสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพยังคงเติบโตได้เรื่อยๆ และมีการแข่งขันค่อนข้างสูง การที่จะประสบความสำเร็จได้จุดแข็งอยู่ที่ตัวสินค้าที่ต้องมีคุณภาพจริงๆ แต่ในสังคมบ้านเราผู้บริโภคยังซื้อเพราะความเชื่อและการโฆษณาโดยไม่ศึกษาข้อมูล ทำให้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพบางแบรนด์ยังขายได้ ส่วนสินค้าที่ผ่านการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์หรือเภสัชศาสตร์ยังมีไม่มาก เราจึงกล้าที่จะเข้ามาในตลาดนี้ เพราะเชื่อว่าต่อไปผู้บริโภคจะเรียนรู้บทเรียนจากอดีต กลุ่มที่รักสุขภาพจริงๆ และอยากได้ของที่มีคุณภาพจะศึกษาข้อมูลมากขึ้น
คิดว่าตัวเองเป็นผู้บริหารสไตล์ไหน
ในการทำงานผมจะแบ่งเป็น 3 ฟังชั่นใหญ่ คือ Planning, Controlling และ Organizing โดยตัวผมเองไม่มีโต๊ะทำงานในบริษัท จะมีแค่โต๊ะประชุมและโต๊ะทำงานของพนักงาน เพราะผมจะเน้นการประชุม การวางแผนงาน และติดตามการทำงานของแต่ละฝ่ายว่าเป็นอย่างไร ซึ่งวิธีนี้ทำให้ได้ใกล้ชิดกับพนักงานและทีมงานมากขึ้นด้วย
ความสำคัญของบุคคลากร
เรื่องคนสำคัญที่สุด เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานไม่ประสบความสำเร็จก็คือเรื่องคนไม่พร้อม ไม่สามารถทำตามแผนงานได้ เมื่อต้องเปลี่ยนพนักงานใหม่ก็จะทำให้เสียเวลา แต่ถ้าเราโชคดีเรื่องคนที่เข้ามาทำงานจะทำให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่น
อุปสรรคในการทำงาน และวิธีแก้ปัญหา
เวลาทำงานย่อมต้องมีอุปสรรค ซึ่งเราต้องกล้าเผชิญหน้าแล้วศึกษารายละเอียดของอุปสรรคว่ามาจากอะไร เมื่อรู้สาเหตุโอกาสที่จะหาวิธีแก้ไขได้ก็จะเกิดขึ้น แต่บางครั้งวิธีที่ 1 อาจจะแก้ไม่สำเร็จ ก็ต้องหาวิธีที่ 2 และวิธีต่อๆ ไป ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์หรือปัญหานั้นๆ ด้วย
ฝากถึงผู้บริหารรุ่นใหม่
ก่อนที่จะทำหรือบริหารงานอะไรก็ตามควรต้องศึกษา 3 เรื่องนี้ให้ครบ คือ 1. เรื่องของตัวสินค้า ต้องหาสิ่งที่ดีจริงๆ และใช้งานได้จริงๆ 2. การตลาด ต้องหาวิธีทำการตลาดให้เหมาะสมกับตัวสินค้า และ 3. การบริหารงานภายใน ทั้งเรื่องการจัดการงานอย่างไร เรื่องคน เรื่องการทำงาน และระบบการทำงานต่างๆ
นอกจากคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ “Silk Active” จะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แบรนด์เติบโตและก้าวสู่ตลาดโลกแล้ว การบริหารงานด้วยหลักจริยธรรมและจรรยาบรรณ ที่ต้องการให้เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของไทยมีรายได้ที่ดีขึ้น และผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพด้วยราคาที่ยุติธรรม ของคุณบูน สุวังกูร นักบริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการธุรกิจนี้ จะทำให้แบรนด์ Silk Active ประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างยั่งยืน และส่งผลให้หม่อนไหมไทยก้าวไปสู่ตลาดโลกเพื่อสุขภาพของคนทั่วโลกได้อย่างแน่นอน