เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเจ้าของกิจการ และช่างทำผมทุกท่านที่จะได้กลับเข้าร้าน เริ่มทำงานกันได้เสียที! หลังจากถูกสั่งปิดร้านเสริมสวยชั่วคราวทั่วประเทศ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อทางรัฐบาลอนุโลมให้เปิดร้านได้ ทุกคนต่างก็ดีใจ แต่อย่าลืมว่า ร้านทำผมส่วนมากอยู่ได้ เพราะรายได้จากการให้บริการทำสีผม การดัดผม และบำรุงต่างๆ ไม่เหมือนกับร้าน Barber ด้วยมาตรการของรัฐที่ออกมาคุมเข้มแบบนี้ ทางร้านซาลอนจะว่าอย่างไรกันบ้าง?
Hairworld Plus+ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 3 ช่างผมชื่อดังใน 3 จังหวัด เริ่มจากคุณยิ่ง-บุญยิ่ง วัลลานนท์ ร้าน Madam Salon จ.ฉะเชิงเทรา, อ.โบ้-วรพันธ์ เลิศวิริยะประภา จาก ร้านเกศไพบูลย์ จ.ลพบุรี และ คุณแบล็ค-เอริตรา ขุนอาจ จากร้าน Black Hair Salon จ.นครสวรรค์ ที่เพิ่งจะฉลองขยายร้านใหม่ มาฟังความในใจจากพวกเขากัน กับการได้เปิดร้านครั้งแรกในช่วงโควิด
ช่วงที่ต้องปิดร้าน ปรับตัวอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไร
คุณยิ่ง: ช่วงปิดร้านที่ผ่านมา พอได้ทราบข่าวจากการประกาศของทางรัฐบาล ทางร้านได้ปฏิบัติตามกฎมาตรการของทางรัฐบาลทำตามอย่างเคร่งครัด ร้านทำผมต่างจังหวัด จริงๆจะต้องปิดร้านช้ากว่าในกรุงเทพฯ แต่พอมีมาตรการออกมาเราก็สั่งปิดทันทีเพราะเรากลัวในเรื่องของการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และก็ชื่อว่าทางลูกค้าประจำที่ร้านเราก็คิดเห็นตรงกัน เพราะเราไม่ต้องการเสี่ยงตรงจุดนี้ มันไม่คุ้มค่ะ หลังจากที่เหตุการณ์เกิดขึ้น เลยทำให้กลับมานึกถึงอาชีพดั่งเดิมตั้งแต่บรรพบุรุษ คือ “การทำน้ำพริกขาย” ที่ร่วมกับลูกชายทั้ง 2 คน ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ให้เราได้โชว์ความสามารถของเราที่มีมา และยังสามารถสร้างเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวอีกด้วย
อ.โบ้ : ก่อนอื่นเราก็ต้องตั้งสติก่อนนะครับ ต้องยอมรับว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเราคนเดียว คือ มันเกิดขึ้นทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ และทั่วโลกเลยก็ว่าได้ จากนั้นเราก็ค่อยๆ แก้ปัญหาว่าในช่วงที่เราหยุดก็ต้องดูว่า เราไม่ได้ทำงานที่ร้าน แต่เรายังมีผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่แล้ว เราก็จัดเป็นโปรโมชั่น หรือจัดเป็นส่วนลดพิเศษให้ลูกค้าได้มีโอกาสใช้ของที่มีราคาที่จับต้องได้ เพราะในช่วงระยะเวลาแบบนี้ใครๆ ก็อยากประหยัด ไม่อยากที่จะใช้สอยอะไรมากนัก ก็เลยต้องนำสินค้าเหล่านี้มาจัดเป็นรายการโปรโมชั่นพิเศษ แล้วก็ให้ลูกค้าได้ใช้ ที่สำคัญที่สุดเราก็ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังนะครับ เพราะว่าเราไม่มีรายได้เข้ามา ส่วนลูกน้องก็ดีนะครับ ก็บอกว่าช่วยกัน แต่ว่าในช่วงที่เขาทำงานกับเรามาเนี่ย ช่วงเดือนแรกๆ เราก็ต้องจ่ายให้เขาแต่ว่าหลังจากนั้นก็จะมีประกันสังคมชั่วคราว เราก็ช่วยๆ กันไป
คุณแบล็ค: ช่วงปิดร้านที่ผ่านมาตั้งแต่เดือน มี.ค – เมษา ตอนนั้นก็รู้สึกเครียด และกังวลว่าไม่เคยเจอ หรือ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่สักพักเราก็ทำใจได้ และได้ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราเลยมองหาอาชีพเสริมอย่างอื่นที่จะมาทดแทนช่วงนั้น เพื่อเราจะมีรายได้ช่วงที่เราไม่ได้ทำงาน ก็เลยมาขายผลิตภัณฑ์สบู่ออนไลน์เล็กๆน้อย เพื่อให้มีรายได้เสริมเข้ามาบ้าง
มีการเตรียมตัวอย่างไรก่อนเปิดร้าน
คุณยิ่ง: ทางร้านได้มีการจัดเตรียม โซนเก้าอี้ นั่งตัดผม เว้นระยะห่าง มีการทำความสะอาดอุปกรณ์ทั้งหมดภายในร้าน เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือวัดไข้ ให้พร้อมตามมาตรการที่ทางภาครัฐประกาศ มีการทำระบบเรื่องการนัดคิวลูกค้าล่วงหน้าก่อนที่จะเปิดร้านโดยทางร้านจะรับนัดคิวที่เป็นลูกค้าประจำหรืออยู่ในบริเวณโซนใกล้ๆร้านก่อนในช่วงแรกค่ะ (ไม่รับขาจรเพราะต้องการลดความเสี่ยงค่ะ)
อ.โบ้: เตรียมตัวเรื่องของการทำความสะอาดร้านนะครับ เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจว่าร้านเราถ้าได้เปิดแล้ว แน่นอนที่สุดก็ต้องมีความสะอาด ถูกสุขอนามัย เช่น มีการจัดเตรียมเรื่องของอุปกรณ์การป้องกันต่างๆ ให้กับลูกน้องของเรานะครับ ไม่ว่าจะเป็นเฟซชิลด์ หรือว่าจะเป็นแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆๆ อุปกรณ์เหล่านี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าทุกที่ต้องมีอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ต้องดูให้มันทันสมัย แล้วก็ดูว่าได้มาตรฐานด้วยนะครับ ไม่งั้นลูกค้าก็อาจจะ มีความไม่มั่นใจนะครับ แล้วการทำงานของเราก็ต้องมีความละเอียดมากขึ้น มีความสนใจในเรื่องความสะอาด เช่น การเปลี่ยนผ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผ้าคลุมซอย หรือกรรไกร ก็ต้องเอาไปอบฆ่าเชื้อ
คุณแบล็ค: มีการเตรียมตัวค่ะ พอรัฐบาลประกาศให้เปิด ร้านได้ก็มาทำความสะอาดร้านฆ่าเชื้อโรคภายในร้านทุกซอกทุกมุม พนักงานเตรียมตัวอย่างดีทางร้านได้เตรียมเครื่องมือวัดอุณหภูมิ เจลล้างมือ และ แอลกอฮอล์ ตู้ฆ่าเชื้อน้ำยาฆ่าเชื้อพร้อมรบค่ะ
ได้เปิดร้านแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง
คุณยิ่ง: ตอนนี้ทางร้านยังไม่ได้เปิดให้บริการตัดผมนะคะ เพราะตั้งใจจะเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อน แต่ได้มีการรับนัดล็อคคิวไว้เรียบร้อยแล้วเช็คประวัติลูกค้าทุกคนเรารับลูกค้าประจำก่อนในช่วงแรกที่ร้านเปิด เพื่อให้เวลาที่เปิดร้านแล้วลูกค้าได้รับความสะดวก รู้สึกปลอดภัยมากที่สุด
อ.โบ้: ก็ดีใจนะครับ แต่ก็รู้สึกหวั่นๆ ใจไปด้วย คือ ดีใจที่ได้เปิดร้านแล้วก็จะมีรายได้ แม้จะได้ไม่เหมือนเดิม แต่ก็ดีที่ลูกน้องของเราจะมีรายได้เพื่อเอาไปดูแลครอบครัว ส่วนเรื่องที่หวั่นใจคือถ้าสถานการณ์มันยังไม่ดีขึ้นหรือเลวร้ายลงไปกว่าเดิม จะต้องโดนปิดร้านอีกหรือเปล่า ก็เลยอยากให้พวกเราช่วยกันรณรงค์ ทำตามมาตรการต่างๆ และที่สำคัญต้องขอบคุณลูกค้าที่โทรมาถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะเปิดร้าน ก็ถือว่าเป็นความรู้สึกที่ดีที่ทำให้เรารู้สึกว่าอย่างน้อยช่วงที่เราปิดร้านเขาก็ไม่ได้ไปตัดผมกับใคร และทำให้เรารู้สึกว่าช่างผมนี้เป็นอาชีพที่เรามาถูกทางแล้ว
คุณแบล็ค: พอได้ทำงานแล้วรู้สึกว่ามีความสุข เพราะตลอดเวลาที่กักตัวอยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากทำกับข้าวพอเราได้ทำงานรู้สึกได้ปลดปล่อยและยิ่งได้เห็นรอยยิ้มจากลูกค้าที่เข้ามาทำผมในวันที่เปิดร้านวันแรก รู้สึกมีความสุขค่ะ
ปัญหาที่พบเจอคืออะไร และอยากให้แก้ไขอย่างไร
คุณยิ่ง: ส่วนตัวมีความคิดเห็นว่า เมื่อเปิดร้านแล้วเรื่องของค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆเช่น ค่าเช่าร้าน ค่าช่างผม ค่าไฟ ค่าน้ำ ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมแต่รายรับไม่เท่าเดิม เพราะรายรับส่วนใหญ่ในร้านทำผมจะมาจากการทำเคมีต่างๆ (ทำสีผม/ดัดผม) แต่ทางภาครัฐในช่วงแรกให้ ทำแค่ ตัด สระ ไดร์ ผมเท่านั้น เลยอยากฝากให้มีทางรัฐบาลมีมาตรการดูแลกิจการร้านทำผมในส่วนนี้เพิ่มเติมค่ะ
อ.โบ้: มีปัญหานึงที่พบคือลูกค้าอยากทำเคมี แต่เรื่องนี้เป็นกฎระเบียบของรัฐบาล เราก็ต้องทำใจและรอจนกว่ารัฐผ่อนปรน ส่วนปัญหาต่อไปที่เริ่มเห็นมากขึ้นก็คือประชาชนเริ่มหย่อนยาน อย่างเรื่อง สวมแมสก์ ก็อย่างให้ทุกคนระมัดระวังกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ และอีกเรื่องคือคนที่มาใช้บริการกับเรา เราก็จะไม่ได้รู้เลยว่าเป็นหรือไม่เป็น ถ้าในอนาคตโรคนี้ยังไม่หมดไป ก็ปัญหาคือคนที่มาใช้บริการกับเราเขาจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นน่าจะมีแนวทางอะไรสัก เพื่อให้รู้ว่าเขาได้รับการตรวจโรคโควิดแล้ว จะได้มีความมั่นใจทั้งลูกค้าและร้านทำผม
คุณแบล็ค: อยากให้รัฐบาลออกมาช่วยเหลือเจ้าของกิจการที่ไม่มีรายได้เลยที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลสั่งให้เราปิดแล้วก็ลูกน้องบางคนก็ไม่ได้รับเงินเยียวยาเช่นกันอยากให้รัฐบาลมองเห็นถึงจุดนี้ด้วยค่ะ
มีความคิดเห็นอย่างไร ต่อมาตรการของภาครัฐ
คุณยิ่ง: เข้าใจในสถานะการณ์ที่เกิดขึ้น และในส่วนตัวเห็นด้วยกับมาตรการของทางรัฐบาล และต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่เห็นว่าอาชีพทำผมเป็นอาชีพที่สำคัญ ถึงได้ให้อนุมัติให้เปิดก่อนค่ะ แต่ฝากรัฐบาลช่วยชี้แจง หรือบอกตัวเลขขอยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ตรงความจริง ประเทศจะได้คืนกลับสู่สภาพเดิม ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความสงบสุข
อ.โบ้: ถ้าเรามองในมุมของรัฐบาลก็เข้าใจว่าการที่ต้องดูแลคนจำนวนมากๆ และในหลายๆ วงการ เมื่อมีการอนุญาตให้ร้านทำผมเปิดได้แล้วก็จำเป็นต้องออกระเบียบต่างๆ มาเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อเกิดขึ้นในร้านทำผม แต่ถ้ามองในมุมช่างก็มีความรู้สึกว่าการที่ให้ร้านทำได้แค่ตัด สระ ไดร์อย่างเดียว แน่นอนว่าถ้าเป็นแบบนี้นานๆ ก็อยู่ไม่ได้อยู่แล้ว ช่างผมก็ต้องปรับตัวกันไปนะครับ
คุณแบล็ค: เข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแต่เราก็ต้องยอมรับกับภาวะนี้ ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้ร้านทำผมได้เปิดก่อนธุรกิจอื่นๆ ขอบคุณรัฐบาลที่เล็งเห็นอาชีพทำผมเป็นอาชีพที่สำคัญ 6 ธุรกิจที่ได้เปิดก่อน
อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือ เยียวยาอย่างไร หรือ มีอะไรอยากบอกรัฐบาล
คุณยิ่ง: เนื่องจากรายจ่ายที่มากขึ้น แต่รายรับไม่เท่าเดิม และผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ต้องปิดร้านในช่วงที่ผ่านมา เลยอยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องของการลดหย่อนค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ค่ะ เช่น ค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆให้กับผู้ประกอบกิจ
อ.โบ้ : เราเข้าใจดีว่าสถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง รัฐบาลก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้ทุกๆ ภาคส่วนได้รอดพ้นจากวิกฤติในครั้งนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่มันสะท้อนใจหลายๆ คนก็คือเรื่องของการเยียวยาที่ไม่เข้าถึงทุกกลุ่ม ก็อยากให้รัฐบาลทำงานแบบบูรณาการ และช่วยเหลือให้ครอบคลุม เพราะมีช่างผมหลายคนที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา รวมทั้งในส่วนของผู้ประกอบการด้วย สุดท้ายก็อยากขอบคุณรัฐบาล คุณหมอ พยาบาลและบุคคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเททำงานเพื่อดูแลพวกเรา
คุณแบล็ค: อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องการทำเคมีเพราะว่าช่างทำผมที่อยู่ได้จริงๆเพราะการทำเคมี ช่างมีค่าใช้จ่ายต่างๆสิ่งเหล่านี้คือผลกำไรของช่างทำผมคิดว่าถ้าเขาได้เงินพวกเขาก็จะมีความสุข และมีกำลังใจต่อไป
อยากฝากอะไรถึงพี่น้องช่างผมบ้าง
คุณยิ่ง: อยากฝากถึงพี่น้องช่างผมว่าขอให้ช่างผมทุกๆคนอดทนกันนิดนึงนะคะ ช่างทำผมทุกคนเก่งมีความสามารถรอบด้านค่ะเชื่อว่าทุกคนต้องมีภูมิคุ้มกันและสามารถผ่านปัญหา อุปสรรคครั้งนี้ได้ ขอบคุณสถานะการณ์ที่ทำให้เราได้โชว์ความสามารถด้านอื่นๆที่นอกเหนือจากการทำผม จากรายได้เสริม บางคนกลายเป็นอาชีพหลัก ดูแลครอบครัวได้ เราทุกคนจะผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปพร้อมกันค่ะ…
อ.โบ้ : อยากให้กำลังใจทุกๆ คน เพราะวันนี้เราเชื่อว่าร้านทำผมมีอยู่ทุกที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นร้านระดับไหนก็แล้วแต่ทุกร้าน ทุกคนได้รับผลกระทบหมด เพียงแต่จะมากหรือน้อย สิ่งสำคัญคือจากนี้ก็จะต้องมีการพัฒนา ดูว่าร้านของเราต้องปรับปรุงอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝีมือ ความสะอาด เพื่อสร้างความมั่นใจให้รัฐว่าอาชีพของเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการก่อให้เกิดการแพร่กระจายของโรคโควิด
คุณแบล็ค: ขอให้พี่น้องช่างทำผมทุกคนสู้สู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นในปีนี้ขอให้มันหมดไปแล้วขอให้ทุกอย่างกลับมาดีเหมือนเดิมอย่าย่อท้อนะคะเพราะสิ่งนี้มันทำให้เรารู้ได้ว่าต้องผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปพร้อมพร้อมกัน
