ในการทำสีผมนั้นไม่ว่าช่างผมจะมีความเชี่ยวชาญแค่ไหนแต่ก็มีโอกาสเกิดผลลัพธ์ที่คลาดเคลื่อนได้เสมอ ดังนั้นช่างผมจึงไม่สามารถอาศัยเพียงความรู้ในขั้นตอนการทำสีได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องเรียนรู้วิธีที่จะประยุกต์ใช้ รวมไปจนถึงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นด้วย
สีอ่อนเกินไป
ปัญหาการย้อมสีอ่อนจนเกินไป ช่างผมบางท่านอาจตอบโดยฉับพลันว่าย้อมให้เข้มขึ้นก็สิ้นเรื่อง แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่จะด่วนสรุปควรต้องวิเคราะห์ให้ชัดว่าเส้นผมของลูกค้าในตอนนั้นต้องการการแก้ไขที่เหมาะสมที่สุดโดยวิธีใด
ถ้าหากลูกค้าทำสีพาสเทล แต่สีที่ได้รับการย้อมนั้นอ่อนเกินไป สภาพผมที่ถูกฟอกจนอ่อนแอมาแล้วให้ย้อมทับอีกรอบคงไม่ดีแน่นอน ดังนั้นทางออกที่เหมาะสมคือการเลือกใช้แว๊กซ์เคลือบสีผม เลือกเฉดสีตามที่ต้องการได้เลย
ถ้าหากลูกค้าทำผมสีบลอนด์ แต่ผลลัพธ์ออกมาปรากฏว่าฟอกสีไว้ในระดับที่สว่างมากเกินไป การย้อมสีทองที่เข้มทับ มีโอกาสที่สีผมจะเพี้ยนจากความต้องการของลูกค้า เนื้อสีทึบ ไม่ใส สูงมาก ทางออกที่เหมาะสมคือการทำเซรั่มทรีทเม้นต์ประเภทน้ำมัน จะช่วยให้ความสว่างของเส้นผมดรอปลงประมาณครึ่งเฉด
ถ้าหากลูกค้าเกิดอาการไม่มั่นใจในตัวเอง ช่างผมมีหน้าที่ให้กำลังใจ และถ้าหากลูกค้ายืนยันว่าต้องการสีเข้มขึ้นจริงๆ เรามี 3 ทางเลือก คือ
- ต้องการเข้มขึ้นกว่าเดิมมาก สามารถย้อมทับได้เลย แต่ช่างผมต้องวิเคราะห์ก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ และลูกค้าฟอกสีมาแล้วกี่ครั้งในวันนั้น
- ต้องการเข้มขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ช่างผมสามารถประยุกต์โดยการนำสีผมที่เข้มขึ้นทาแล้วล้างด้วยแชมพูทันที หรือใช้โทนเนอร์ผสมกับแชมพูสระผมก็ได้
- รู้สึกไม่มั่นใจในหน้าตัวเอง ณ ตอนนั้นอย่างแรง รู้สึกว่าทุกอย่างดูสว่างเกินไป ช่างผมควรทำ low-light โดยใช้เทคนิคบาลายาจ จะทำให้สีผมโดยรวมดูกลมกลืนมากขึ้น
สีเข้มเกินไป
ปัญหาการย้อมสีเข้มจนเกินไป ถือเป็นปัญหาหนักอกของช่างทำผมเลยทีเดียว บางเคสอาจรอให้สี Fade ได้ แต่ลูกค้าบางเคสที่ย้อมสีเข้มจัดมาแล้วต้องการให้แก้ทันที ดังนั้นสิ่งที่ช้างผมสามารถทำได้ มีดังต่อไปนี้
ถ้าลูกค้าย้อมสีดำธรรมชาติ มะฮอกกานี น้ำตาลเข้ม มีวิธีลดลดความเข้มของสี ให้สีดูสมูทมากขึ้นได้ ดังนี้
- ใช้แชมพูประเภท Clarifying สระล้างสีในครั้งแรก แชมพูชนิดนี้จะมีคุณสมบัติในการชำระล้างเคมีและมลภาวะ ซึ่งส่งผลต่อการหลุดของสีย้อมเช่นเดียวกัน
- ใช้น้ำอุ่นในการสระผม ความร้อนจะเป็นตัวการทำให้สีเฟดเร็วขึ้น
- ใช้ครีมนวดหมักผม เพื่อปิดเกล็ดผมที่ถูกเปิดไปก่อนหน้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับข้าตอนถัดไป
- หากต้องการย้อมทับให้เป่าผมให้แห้งแล้วดูแนวทางของเม็ดสีที่ยังหลงหลือบนเส้นผม น้ำตาลอ่อนเป็นตัวเลือกที่ดี
- ไม่ควรเสี่ยงย้อมสีแฟชั่นที่ต้องทำการฟอกสีทับ เพราะอาจทำให้เส้นผมอ่อนแอเกินไป
ถ้าลูกค้าย้อมดำสนิทมา ให้ผสมผงวิตามินซีบริสุทธิ์ (ถ้าซื้อแบบแคปซูลก็สามารถแกะออกมาใช้ได้) หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เข้ากับแชมพูประเภท Clarifying เนื่องจากวิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นกรดซึ่งส่งผลต่อสีผม เมื่อสระให้ใช้หวีซี่ห่างสางผมระวังไม่ให้พันกันด้วย พักผมทิ้งไว้โดยไม่ต้องใช้ความร้อนประมาณ 30 นาที จึงล้างออก จากนั้นควรทำทรีทเม้นท์บำรุงอย่างล้ำลึก ยังไม่ควรทำสีอื่นทับ
*หมายเหตุ วิธีนี้ไม่ควรใช้กับเส้นผมที่อ่อนแอ เช่น ลูกค้าเคยฟอกสีมาอย่างหนักจนผมเสียแล้วย้อมดำทับ
ถ้าลูกค้าย้อมสีแฟชั่น แบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ
- กลุ่มสีพาสเทล สามารถใช้การสระผมเพื่อเร่งให้สีเฟดแบบเคสแก้สีดำได้เลย
- กลุ่มสีธรรมชาติ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ Color Removing Cream แบบที่มีจำหน่ายในบางแบรนด์ได้เลย หรือ ช่างผมสามารถประยุกต์โดยการใช้ครีมฟอกสีผมทาทับแล้วล้างออกทันที ซึ่งทั้งสองวิธีนี้มีผลข้างเคียงคือจะชำระล้างประกายในเนื้อสีออกไปด้วย ดังนั้นหลังแก้สีจึงควรลงแว็กซ์เงาทับ หรือทำทรีทเม้นท์
- สำหรับการทำสีใหม่เพิ่ม ของทั้ง 2 เคส ให้ใช้ความรู้ตามทฤษฎีสีได้เลย
หวังว่าวิธีแก้ไขความผิดพลาดเหล่านี้คงเป็นประโยชนแก่เหล่าช่างผมได้บ้าง แต่อย่างไรก็ดี ทุกครั้งที่เกิดปัญหา ตัวช่างผมควรทบทวนว่าความผิดพลาดนี้เกิดมาจากสาเหตุใด สภาพอากาศ, ปฏิกิริยาทางเคมีที่คลาดเคลื่อน, การวิเคราะห์สภาพเส้นผมลูกค้าผิดพลาดหรือไม่ ฯลฯ หากเราสามารถค้นหาและยอมรับกับตนเองได้อย่างตรงจุด ก็จะช่วยทำให้เราสามารถหาทางพัฒนาปรับปรุงตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ