อีกหนึ่งอุปกรณ์คู่ใจของสาวๆ ที่ชอบผมตรงสลวย ก็คือ ‘เครื่องหนีบผม’ แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อแบบไหนดี? หรือต้องดูอะไรบ้าง เพราะหน้าตาของเครื่องหนีบผมก็ดูเหมือนกันไปหมด วันนี้เรารวมเคล็ดลับและเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการซื้อเครื่องหนีบผมมาฝากกัน
1. ดูความกว้างของแผ่นให้ความร้อน
ถ้าใครที่ใช้เครื่องหนีบผมในเวลาเร่งด่วนอย่างในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน การเลือกแผ่นความร้อนที่มีขนาดกว้างจะช่วยให้กระจายความร้อนได้ดีและหนีบผมตรงได้เร็วมากขึ้น แต่ถ้าใครมีผมเส้นเล็กต้องระวังจุดนี้ เพราะความร้อนมากเกินไปจะส่งผลให้ผมแห้งเสียได้ง่าย ควรเลือกแผ่นให้ความร้อนที่ขนาดแคบและเล็กลงมา
2. เลือกทรงของเครื่องหนีบผม
ถ้าสังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่าเครื่องหนีบผมมีอยู่ 2 แบบ คือแบบที่แผ่นให้ความร้อนกับมุมด้านนอกของเครื่องหนีบมีลักษณะโค้งมนเล็กน้อย ซึ่งนำมาใช้ม้วนผมให้เป็นลอนได้ด้วย และอีกแบบคือเครื่องหนีบผมที่มีมุมเหลี่ยมจะเน้นที่การยืดผมให้ตรงมากกว่า เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้อควรดูว่าส่วนใหญ่เราชอบทำผมแบบไหน เช่น หนีบให้ตรงอย่างเดียว หรืออยากทำลอนผมในบางวันด้วย ก็เลือกทรงของเครื่องหนีบให้ตรงกับที่เราต้องการ
3.เลือกประเภทวัสดุของแผ่นให้ความร้อนที่เหมาะสม
แผ่นให้ความร้อนในเครื่องหนีบผมมีหลายแบบ และทำจากวัสดุหลากหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป แผ่นให้ความร้อนเหล่านี้ไม่มีแบบไหนที่ดีที่สุด ในการเลือกซื้อก็ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพเส้นผม ความต้องการใช้งาน และเรื่องของราคา มาดูกันว่ามีประเภทไหนกันบ้าง
(1) แผ่นให้ความร้อนไทเทเนียม มีข้อดีคือร้อนไว ให้ความร้อนสูง และกระจายความร้อนได้สม่ำเสมอและทั่วถึง แต่ราคาค่อนข้างสูง และส่วนใหญ่แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องหนีบผมไทเทเนียมนอกจากว่าจะเป็นคนที่ผมหยักศกมากๆ
(2) แผ่นให้ความร้อนเซรามิก มีราคาและประสิทธิภาพในระดับพอๆ กัน และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผม แต่เครื่องหนีบผมบางยี่ห้อจะเคลือบเซรามิกแค่ที่ผิวหน้าของแผ่นให้ความร้อน ถ้าผ่านไปนานๆ เซรามิกจึงอาจจะหลุดลอกออกและทำให้เครื่องหนีบผมกระจายความร้อนได้น้อยลง เพราะฉะนั้นควรเลือกให้ดีก่อนนะคะ
(3) แผ่นให้ความร้อนทัวร์มาลีน เหมาะสำหรับคนที่มีผมเสีย เพราะแผ่นให้ความร้อนประเภทนี้จะสร้างไอออนประจุลบมากกว่าไอออนประจุบวก ซึ่งมีส่วนช่วยลดผมหยิก ทำให้ผมเรียบขึ้นไม่ชี้ฟู
(4) แผ่นให้ความร้อนแบบเทฟลอน มีข้อดีคือความเรียบลื่น ไม่ก่อให้เกิดการเสียดสี พร้อมช่วยปกป้องเส้นผมไม่ให้ฉีกขาดหรือแตกปลาย และยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นที่มักเสียไปในการทำผมด้วยความร้อนด้วย
4.เลือกเครื่องที่ปรับอุณหภูมิได้
แม้ว่าอุณหภูมิของเครื่องหนีบผมที่มีความร้อนสูงจะช่วยให้เราหนีบผมตรงสลวยได้อย่างรวดเร็ว แต่เส้นผมของบางคนก็ไม่จำเป็นและไม่เหมาะกับเครื่องที่มีความร้อนสูงเกินไป ดังนั้น ควรเลือกเครื่องที่ปรับระดับอุณหภูมิได้เพื่อถนอมเส้นผมจะดีกว่าเพราะเครื่องที่ราคาถูกมักจะปรับอุณหภูมิไม่ได้ และให้ความร้อนไม่สม่ำเสมอ ซึ่งก็จะส่งผลให้ผมที่หนีบเสร็จแล้วไม่รีบลื่นสวยสม่ำเสมอตามไปด้วย แล้วอาจจะทำให้ผมบางส่วนไหม้อีกต่างหากถ้าเราเผลอหนีบนานเกินไป
นอกจากเรื่องของคุณสมบัติเบื้องต้นเหล่านี้แล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญก็คือ ราคา หลายคนอาจจะอยากได้เครื่องหนีบผมราคาประหยัดมาใช้งาน แต่ก็ต้องทำใจไว้ก่อนได้เลยในเรื่องของความทนทาน และส่งผลให้ผมเสียได้ง่ายด้วย แต่ในทางกลับกันการเลือกซื้อเครื่องที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย และราคาสูง ก็อาจจะไม่คุ้มค่า เพราะบางคนไม่ค่อยมีเวลาทำผมสวยๆ หรือไม่ได้จำเป็นต้องทำผมบ่อยๆ เพียงแค่ใช้ในการหนีบผมให้ตรงหรือลดการชี้ฟูเท่านั้น ก็จะกลายเป็นว่าฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ ที่เราลงทุนซื้อมากลับใช้ไม่คุ้มค่าไปเสียอีก เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้อก็อย่าลืมดูหลายๆ อย่างประกอบกันด้วยนะคะ เพื่อให้คุ้มค่าต่อการใช้ในระยะยาวจริงๆ
Cr. freepik , pinterest