Go Forward with My Passion :
อีกหนึ่งบทบาทใหม่ของ เติ้ล-พงษ์มนัส สวัสดิชัย
เชื่อว่าสาวๆ ที่รักในแฟชั่นหรูหราพาฝัน ดุจเจ้าหญิงในนิยายมหัศจรรย์คงรู้จักแบรนด์เครื่องประดับสัญชาติไทยชื่อดังอย่าง 77TH Jewelry เป็นอย่างดี เพราะไม่เพียงแต่เป็นที่ต้องตาแฟชั่นนิสต้าทั่วฟ้าเมืองไทยเท่านั้น แต่ที่ผ่านมายังนำผลงานไปจัดแสดงในต่างประเทศเช่นกรุงปารีสด้วยเช่นกัน และในวันนี้ 77TH Jewelry ซึ่งนำทัพโดยผู้ก่อตั้ง คุณเติ้ล พงษ์มนัส สวัสดิชัย ได้ขยายอาณาจักร 77TH สู่อีกโลกของความหรูหราที่สามารถสัมผัสได้เช่นเดียวกับเครื่องประดับกลายเป็น 77TH Salon and Barber สถานที่ที่เมื่อคุณก้าวเข้ามาก็จะได้สัมผัสกับความหรูหรา สนุกสนาน ตามจินตนาการที่คุณเติ้ลสร้างสรรค์ไว้ได้ทันที ซึ่งในวันนี้ Hairworld Plus จะขอนำผู้อ่านมาพบกับบุคคลผู้เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของ 77TH Salon and Barber และทำความรู้จักกับเขาไปพร้อมๆ กัน
จุดเริ่มต้นของ77TH Salon and Barber
ก่อนหน้าที่เติ้ลจะมาเปิดธุรกิจด้านซาลอน 77TH เป็นแบรนด์เครื่องประดับที่ก่อตั้งแบรนด์มาประมาณ 10 ปีแล้ว กลุ่มลูกค้าของเราอยู่กับอะไรที่เป็นแฟชั่นตลอดเวลา เราเลยอยากมองหาธุรกิจไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เพื่อเสริมประสบการณ์ให้กับลูกค้า เพราะเติ้ลเชื่อว่าผู้หญิงของ 77TH เป็นผู้หญิงที่มีความรักสวยรักงาม เป็นผู้หญิงชอบความแฟนตาซี มีการปรุงแต่งตัวเองอยู่ตลอดเวลา เลยกลายเป็นการจุดประกายให้ตัวเติ้ลเองลุกขึ้นมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ จริงๆ แล้วก็มีธุรกิจสไตล์อื่นๆ เช่น ร้านอาหาร แต่ตัวเราเองคิดว่าในวงการแฟชั่นถ้าเราหันมาทำธุรกิจนี้มันเป็นเรื่องใหม่ 77TH เป็นคนที่เริ่มทำธุรกิจตรงนี้ก่อนใครในวงการ เดิมทีแล้วตั้งแต่เราเด็กๆ เป็นคนชอบทำสีผม แม้ว่าจะเป็นคนไว้ผมสั้นอย่างที่เห็น แต่ตัวเราเองก็คิดว่าเรื่องของทรงผม หรือสีผมเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนสไตล์ของคนได้จริงๆ เพราะเรื่องของผมก็เป็นหนึ่งในเซนส์ของแฟชั่น
จาก จิวรี่สู่ซาลอน
ตัวเติ้ลเองจบการศึกษาจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จบด้านจิวเวลรี่มาโดยตรง เพราะฉะนั้นเราจึงมีพื้นฐานทางด้านศิลปะ แล้วตัวของเราเองก็อยู่ในแวดวงแฟชั่น มีความคลุกคลีกับคนกลุ่มนี้เยอะ และมีความข้องเกี่ยวกับวงการผมมาโดยตลอด แต่แค่ไม่เคยมาลงมือทำด้วยตัวเอง เติ้ลใช้เวลาในการตัดสินใจประมาณ 1 ปี เราก็เลยรู้สึกว่าโอเคละ เราต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจังสักที เราจึงเริ่มต้นทุกอย่างที่นี่ มีการเทรนนิ่งด้วยอาจารย์หลายคนที่เข้ามาช่วยสอนเติ้ล และอีกเรื่องที่คนในวงการแฟชั่นไม่ค่อยรู้คือ เติ้ลต้องไปฝังตัวอยู่ในซาลอนเพื่อที่จะเข้าไปศึกษาขั้นตอนการทำงานอย่างมืออาชีพ ใช้เวลาในการเรียนรู้มากกว่าครึ่งปี ก่อนที่จะตัดสินใจสร้างซาลอนแห่งนี้ขึ้นมา
สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ 77TH Salon
สไตล์ของที่นี่เราจะเน้นเรื่องของสีผมเป็นหลัก เพราะสีผมเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความแฟนตาซีได้อย่างชัดเจนและตรงคาแร็คเตอร์กับกลุ่มของลูกค้า 77TH ส่วนใหญ่ที่นี่เราชอบเป็นสไตล์ Unicorn Hair อย่างล่าสุดเราได้เปลี่ยนลุคให้กับพี่ลินดา (ลินดา เจริญลาภ) ดีไซเนอร์แบรนด์ LaLaLove ก่อนหน้านี้เป็นพวกสีโทนธรรมชาติ เราได้เนรมิตลุคใหม่ ด้วยการไล่โทนสีจากสีทอง สีน้ำเงิน และโทนสีชมพู ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโฉมก่อนที่พี่ลินดาจะไปร่วมงาน Tokyo Fashion Week และก็ยังมีลูกค้าท่านอื่นๆ อีก เช่น พี่ดวง (วรรณพร โปษยานนท์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร Harper’s Bazaar) และยังมีพี่จีน กษิดิศด้วย
คำจำกัดความตัวเอง
ถ้าให้เติ้ลนิยามตัวเอง เติ้ลคิดว่าตัวเองเป็นคนไฮบริด เพราะส่วนตัวแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นคนไฮเปอร์ไหม พอถึงเวลาที่ต้องคิดอะไรหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน ในเวลาเดียวกันก็ทำได้ แต่จะให้มีสมาธิสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียวก็ทำได้ ความหรูหราก็ชอบ ความป็อปก็ชอบ เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีบุคลิกสองแบบในคนเดียว เหมือนกับเรารู้ตัวเองว่าตรงไหน และจุดไหนได้ทันที เหมือนความชอบของเราที่ชอบในความป็อปสนุกสนาน และชอบความวินเทจที่ดูหรูหรา พอสองอย่างนี้มารวมกันแล้วก็ออกมาดูมีความเซอร์เรียลผสมผสานกัน มันสะท้อนความไฮบริดในตัวตนของเราด้วย
ไลฟ์สไตล์ส่วนตัว
ใครที่เข้ามาในซาลอนก็พอจะทราบตัวตนของเติ้ลเลย การตกแต่งทุกๆ อย่างมันสะท้อนตัวตนข้างในของเราออกมาค่อนข้างที่จะชัดเจน มีทั้งความเป็นวินเทจ ผสมผสานกับความเป็นเซอร์เรียลนิดๆ เติ้ลให้คอนเซ็ปต์ว่า “Eccentric Surrealism” ทำให้ทุกคนเข้ามาในซาลอนแล้วต้องพบกับสิ่งที่คาดไม่ถึง หลังจากที่เสร็จงานแล้วเติ้ลชอบอยู่กับผู้คน และใช้ชีวิตอยู่กับผู้คนค่อนข้างเยอะ อย่างถ้าถามถึงเรื่องปาร์ตี้ เติ้ลใช้เรื่องนี้ในการเข้าสังคมมากกว่า ทำให้มีโอกาสได้พบเจอผู้คนมากมาย ทำให้เราได้เรียนรู้ไลฟ์สไตล์ สิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้เติ้ลคือการที่เราได้พบปะผู้คน ด้วยความที่ตอนนี้เป็นดีไซเนอร์ และยิ่งตอนนี้เป็นช่างทำผมด้วยแล้ว การที่เราได้พบปะผู้คน และได้เรียนรู้ไลฟ์สไตล์ผู้คนมากเท่าไหร่ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากเราเป็นคนที่ต้องสร้างสรรค์ผลงานอยู่ตลอดเวลา การที่เราหมกอยู่กับตัวเอง หรือสิ่งที่เราคิดตลอดเวลา เราจะไม่รู้เลยว่าสังคมนั้นเกิดอะไรขึ้น ผู้คนมีความต้องการอะไร หรืออยากได้อะไร งานด้านออกแบบต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และต้องอัพเดตตัวเองตลอดเวลา
เวลาว่าง
ตั้งแต่เปิดซาลอนแล้วเวลาพักผ่อนค่อนข้างเปลี่ยนไป เพราะก่อนหน้าที่ยังไม่เริ่มทำซาลอนชีวิตเราจะมีช่วงเวลาพักผ่อน ศุกร์–เสาร์–อาทิตย์ ตอนนี้พอเปิดซาลอนเลยกลายเป็นว่าเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าจะแวะเวียนมาใช้บริการ ตอนนี้เวลาว่างเลยอยู่กับน้องหมา พันธุ์สแตนดาร์ดพูดเดิ้ล ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีตัวใหญ่ ขนสีดำสวย ซึ่งตรงกับคาแร็คเตอร์ของเติ้ลมาก และเราเคยใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานของตัวเองมาก่อน ด้วยความที่ตัวเขามีขนที่ฟูสวย เลยทำให้ดูเป็นหมาสไตล์ซาลอนมากๆ เติ้ลจะใช้เวลาว่างในการดูแลเขา พาไปทำซาลอน แต่ไปทำซาลอนของน้องหมา ไม่ได้ทำซาลอนที่นี่ ต้องบอกกันก่อนเดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดว่าทำที่เดียวกัน (หัวเราะ)
สถานที่ กิน-ดื่ม-เที่ยวสุดโปรด
ร้านอาหารโปรดของเติ้ลที่ชอบถ้าเป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน เติ้ลชอบร้าน It’s Happened to be a Closet เป็นร้านที่ต้องไปประจำถ้าอยากกินอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน แต่ถ้าอาหารสไตล์ญี่ปุ่น เติ้ลไม่ได้เจาะจงว่าเป็นที่ไหนเป็นพิเศษ ขอให้อร่อย ไปง่ายสะดวกก็พอแล้ว และถ้าถามถึงที่แฮงค์เอ้าท์สังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนของเติ้ลที่
จะแวะเวียนไปเป็นประจำเลยก็คงจะเป็น Courtyard 72 และอีกที่ก็คงเป็น Maggie Choo เหตุที่เติ้ลไปประจำอาจจะเป็นร้านโปรดร้านประจำของกลุ่มเพื่อนๆ เรียกได้ว่านึกที่ไหนไม่ออกก็ต้องเป็นสองที่นี้เลย และถ้าเป็นเรื่องของการช็อปปิ้ง เติ้ลชอบซื้อของออนไลน์มากกว่าการออกไปซื้อเอง อาจจะเป็นเพราะเรื่องของความสะดวกสบาย
ศิลปินในดวงใจ
ถ้าถามถึงที่ชอบมากที่สุดตอนนี้คงจะเป็นดีไซเนอร์ลูกครึ่ง อิตาลเลี่ยน-ญี่ปุ่น Nicola Formichetti (ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์แบรนด์ Diesel และ Nicopanda อีกทั้งยังเป็นแฟชั่นสไตล์ลิสต์) เพราะเติ้ลชอบทุกอย่างที่เป็นเขา และเขาเป็นคนที่มีทุกอย่างตรงกับตัวเติ้ลมาก แต่ก็มีในส่วนที่ไม่เหมือนกันตรงที่ตัวเติ้ลเองจะมีความเป็นวินเทจผสมอยู่ค่อนข้างเยอะ ยิ่งตอนที่เขามาไทยเราก็ได้มีโอกาสได้แฮงค์เอ้าท์กับเขาด้วย และตัว Nicola เองก็เคยเป็นอดีตสไตล์สิสต์ให้กับ Lady Gaga ซึ่งเป็นศิลปินที่เราชื่นชอบมาก และ Muse ของเขาหลายๆ คนก็เป็นเรามากๆ ไม่ว่าจะเป็น Sita Abellan ที่มีผมสีน้ำเงิน หรือแม้แต่ Candy Ken ซึ่งเขาเป็นผู้ชายทำผมสีสะใจมากๆ แบบพวกสีชมพูฟูเชียร์ สีฟ้าเทอร์ควอยซ์ ทั้งสองคนนี้มีบุคลิกที่เปรี้ยวมาก ใครที่ชอบทำสีผม หรือแฟชั่นเก๋ๆ บอกเลยว่าต้องห้ามพลาด
ของสะสมสุด Love
ของสะสมของเติ้ลถ้าให้ทุกคนได้ดูจะรู้เลยว่าเติ้ลเป็นคนมีสองบุคลิกที่แตกต่างในคนเดียวกัน ถ้าไม่ดู Elegance ไปเลย อย่างเช่น พวกสัตว์สตาฟ หรือของวิทเทจที่มีคุณค่า ก็จะดู Pop ไปเลยอย่างพวก ของเล่น ตัวการ์ตูนต่างๆ เติ้ลชอบเอาทั้งสองอย่างนี้มาชนกัน ส่วนของสะสมต่างๆ พวกสัตว์สตาฟเติ้ลได้จากการสั่งซื้อคนรู้จักที่เขาเอาเข้ามาขาย ตอนนั้นในบ้านเรายังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าไหร่ทำให้หาซื้อค่อนข้างยาก และของสะสมพวกตุ๊กตา ฟิกเกอร์ หุ่นตั้งโชว์ต่างๆ เติ้ลจะได้จากการช้อปปิ้งออนไลน์จากเว็บไซต์ Ebay เป็นส่วนใหญ่ จะมีบ้างบางชิ้นที่ได้จากการไปซื้อด้วยตัวเองที่ร้าน บางชิ้นก็ได้ตอนไปเดินตลาดนัดรถไฟแต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ไปเดินแล้ว หลายๆ ชิ้นก็ได้จากตอนไปที่ฝรั่งเศสตามตลาดขายของเก่าบ้าง ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ บ้าง หลายคนจะเห็นความเป็นตัวตนของตัวเติ้ลจากของสะสมได้อย่างชัดเจนเลย อย่างเช่น ตุ๊กตานกแก้ว กับนกแก้วสตาฟ สองอย่างนี้เป็นนกแก้วเหมือนกัน แต่ก็มีเรื่องที่แตกต่างกัน คือ ตุ๊กตานกแก้วจะดูมีความป็อปน่ารักสดใส ส่วนนกแก้วสตาฟจะดูมีความหรูหรามีความออกไปทางวินเทจ เป็นความเหมือนในความต่าง
ก้าวต่อไปของ 77TH Salon and Barber
แรงบันดาลใจของใครหลายๆ คน เติ้ลว่ามันต้องเริ่มจากการเข้าใจในสิ่งที่ชอบจริงๆ ของตัวเองก่อน เราถึงจะนำเสนอสิ่งนั้นออกมาได้ดี อย่าให้ใครก็ตามที่มีประสบการณ์ หรือใครก็แล้วแต่บอกให้เราทำ เราเพียงฟังเป็นแนวทางให้กับตัวเอง แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ดูเก๋ที่สุด แต่ถ้านำมาปรับใช้กับตัวเราไม่ได้มันก็ไม่เกิดประโยชน์ และ 77TH Salon โปรเจ็กต์ต่อไปจะเปิดบาร์เบอร์อีก 1 สาขา คือที่ ช่างชุ่ย เป็นโปรเจ็กต์ที่เราร่วมทำกับ Flynow ชื่อว่า Galaxy Barber by 77TH Salon
จากไลฟ์สไตล์สุดแสนจะไฮบริดตามที่คุณเติ้ลได้ให้คำนิยามไว้ และความหลงใหลในงานศิลปะ ได้สะท้อนตัวตนออกมาผ่านบรรยากาศการตกแต่ง 77Th Salon and Barber อย่างเห็นได้ชัด และด้วยสไตล์ที่ชัดเจน และโดดเด่นนี้เอง ที่ทำให้คุณเติ้ลนั้นกลายเป็นอีกหนึ่งแฮร์สไตล์ลิสต์ที่น่าจับตามองมากที่สุดในวงการตอนนี้เลยก็ว่าได้ และหากใครได้มาสัมผัสกับดินแดนมหัศจรรย์ 77TH Salon and Barber แห่งนี้แล้ว รับรองได้เลยว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ของสะสมของคุณเติ้ล-พงษ์มนัส สวัสดิชัย
1.ฟิกเกอร์ Tom of Finland ความพิเศษอยู่ตรงที่ทุกตัวจะมีซีเรียลนัมเบอร์ และสามารถเปลี่ยนชุด แขน เท้า และส่วนสำคัญของท่านชายได้ถึง 3 แบบ และ 2 ฟิกเกอร์ตำรวจที่มีจุดเด่นที่บริเวณเป้าของกางเกง
2.ฟิกเกอร์ Queen Amidala จากภาพยนตร์เรื่อง Star Wars ตัวละครที่มีจุดเด่นในทรงผม และการแต่งกายอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
3.Gremlins เป็นตัวละครที่มาจากภาพยนตร์ดังในสมัยอดีต ที่คุณเติ้ลชื่นชอบ
4. สัตว์สตาฟ แสดงถึงความหรูหราให้อารมณ์แนววินเทจ และมีความเซอร์เรียลผสมอยู่ด้วย
5.หุ่นของเดวิด และวีนัส สองชิ้นนี้คุณเติ้ลซื้อมาทำสีเมทาลิก เพื่อสะถ้อนถึงยุคคลาสสิก และความป็อปเข้าไว้ด้วยกัน
6.หุ่นพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 หุ่นนี้ได้จากตอนไปเที่ยวที่พระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส
7.ตุ๊กตาประดับต้นคริสต์มาส ที่ได้มาตอนไปเดินแถว Le Marais ที่ประเทศฝรั่งเศส
8.ภาพนูนสูงรูปสามสาวทำจากโพลีเอสเตอร์เรซิ่น ตกแต่งอยู่เหนือบานประตูห้องน้ำ
9.หุ่นพระเยซูติดกระจก และมีคำว่า Look ‘in Good for Jesus ดูทีไรก็ให้แรงบันดาลใจกับเราเสมอๆ
10.ตุ๊กตาวินเทจ ที่คุณเติ้ลหิ้วมาเองข้ามน้ำข้ามทะเล ได้จากร้านขายของเก่าจากประเทศฝรั่งเศส