ก่อนหน้านี้แวดวงเสริมสวยไทย พูดถึงและให้ความสนใจ fufu ธุรกิจซาลอนจากประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างมาก คาดเดากันว่า fufu จะเข้ามามีบทบาทในเรื่องของเทรนด์แฟชั่นสีผม พร้อมกับมอบโอกาสให้ช่างผมไทยได้เข้ามาร่วมงาน เพื่อพัฒนาทักษะด้านการทำผม ผ่านโมเดลธุรกิจที่ได้มาตรฐานจากญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งประเด็นดังกล่าวทำให้เกิดข้อสงสัย และมีคำถามมากมายตามมา วันนี้ Hairworld Plus+ ได้มีโอกาสพบผู้บริหารของ Fast Beauty คุณเคน ทาคาฮาชิ ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท Fast Beauty บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจร้านทำสีผมชื่อดัง fufu จากประเทศญี่ปุ่น เลยขออาสาไขข้อสงสัย เพื่อส่งต่อข้อมูลจริง แบบม้วนเดียวจบ สยบทุกดราม่ากันไปเลยคร่าา
ช่วยเล่าถึงความเป็นมาของ Fast Beauty และการทำธุรกิจในปัจจุบันค่ะ
คุณเคน : บริษัทของเราก่อตั้งในปี 2014 โดยการพัฒนาและดำเนินธุรกิจเสริมสวยที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการทำสีผมโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีสาขาอยู่ถึง 130 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น และผ่านการบริหารจัดการจากเราโดยตรง ในแต่ละปีมีผู้ใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคน นอกจากธุรกิจร้านทำสีผมแล้ว เรายังให้บริการที่เชื่อมโยงระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ โดยการนำเสนอสิ่งต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ สื่ออีคอมเมิร์ช รวมถึงวิดีโอและข้อความสำหรับลูกค้าประจำ
ที่มาของร้าน fufu
คุณเคน : ที่มาของชื่อร้าน “fufu” มาจากเสียงหัวเราะเบา ๆ ในภาษาญี่ปุ่นครับ ซึ่งเป็นการแสดงถึงแนวคิดในการบริการของเราที่ว่า “ทุกวันจะมีรอยยิ้มด้วยเส้นผมที่สวยงาม” เราตั้งใจที่จะทำให้ลูกค้าทุกคนออกจากร้านด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขครับ
กลยุทธ์ของร้าน fufu ที่ทำให้เติบโต และขยายสาขาได้กว่า 130 สาขาในญี่ปุ่น
คุณเคน : เราเชื่อว่าการมุ่งเน้นทักษะทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง คุณภาพการบริการ และระบบที่พัฒนาขึ้นเองอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของเรา
(1) ความมุ่งมั่นต่อทักษะทางเทคนิคและคุณภาพการบริการ : เราได้ร่วมมือกับ NORA ร้านเสริมสวยชั้นนำในย่านโอโมเตะซันโด กรุงโตเกียว เพื่อเสริมความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่เหนือกว่า นอกจากนี้ เรามีศูนย์ฝึกอบรมของเราเอง พร้อมโปรแกรมเฉพาะสำหรับการอบรมพนักงาน ที่สำคัญเรามุ่งมั่นที่จะเสนอบริการที่คุ้มค่ากว่าราคาที่จ่าย ตั้งแต่การคัดเลือกผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในร้าน ไปจนถึงคุณภาพของการบริการลูกค้าที่เราใส่ใจในทุกขั้นตอนครับ
(2) ระบบที่พัฒนาขึ้นเอง : เราได้พัฒนาระบบการจองและ CRM ของเราเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า รวมทั้งมีระบบการจัดการทรัพยากรบุคคลของเรา ซึ่งจะช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีความสุข และมีความมั่นคงครับ
ช่วยพูดถึงมาตรฐานของซาลอนในญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง
คุณเคน : ในประเทศญี่ปุ่น มีเพียงช่างเสริมสวยที่มีใบอนุญาตและมีคุณสมบัติระดับประเทศเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในร้านเสริมสวย โดยปกติแล้วต้องใช้เวลาในการฝึกอย่างน้อย 3 ปี จึงจะครบคุณสมบัติ ในอดีตจะใช้เวลานานถึง 10 ปีเลยทีเดียว แม้การฝึกฝนจะใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน แต่ทักษะที่ได้รับจากการฝึกจะมีความละเอียดและแม่นยำเหมือนกับช่างฝีมือดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ fufu เรามุ่งมั่นที่จะลดระยะเวลาการฝึกฝน และให้บริการที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการทำสีผมครับ
มาตรฐานการบริการของร้าน fufu ในเมืองไทยจะมีเรื่องไหนบ้าง
คุณเคน : สำหรับบริการของร้าน fufu สาขาต่างๆ ในเมืองไทย เราจะรักษามาตรฐานเดียวกันกับที่ประเทศญี่ปุ่น คือ การบริหารจัดการระบบต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ การบริการที่มีความรวดเร็ว ไม่ให้ลูกค้าเสียเวลานานในการเข้ามาในร้าน และรู้กำหนดเวลาการทำผมที่แน่นอน เพื่อให้ลูกค้าสามารถไปจัดการธุระหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อไปได้ นอกจากนี้จะเป็นเรื่องของการให้บริการด้วยช่างทำผมที่มีความเชี่ยวชาญ และให้บริการอย่างใส่ใจทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ตรงตามความต้องการของลูกค้า ในราคาที่สมเหตุสมผลครับ
สาเหตุที่ตัดสินใจมาเปิดตลาดธุรกิจซาลอนในเมืองไทย
คุณเคน : เราได้มีการพิจารณาจากปัจจัยหลัก 3 ข้อนี้ครับ ข้อแรก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วมาเป็นเวลาหลายปี และตอนนี้ประเทศไทยก็กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงของการเติบโตที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ข้อที่ 2 ผมเคยมาเที่ยวประเทศไทยหลายครั้งตั้งแต่สมัยผมเรียนมหาวิทยาลัยในฐานะนักเดินทาง Backpack ผมยังคงประทับใจในความมีน้ำใจ ความจริงใจ และความซื่อสัตย์ของคนไทยที่ยังคงเป็นเสน่ห์เหมือนเดิม และข้อที่ 3 ผมรู้สึกว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมความงามอย่างมาก มีร้านเสริมสวยที่น่าสนใจมากมายเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีช่างผมที่เก่ง และมากด้วยประสบการณ์ ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ fufu จะขยายสาขาไปยังต่างประเทศ โดยเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรก ส่วนในอนาคตจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการขยายธุรกิจในประเทศไทยครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทในเครือสหพัฒน์ที่เป็นผู้ร่วมลงทุน ว่าจะช่วยสนับสนุนธุรกิจของ Fast Beauty ให้เติบโตไปกับคนไทยได้เป็นอย่างดีครับ
ร้าน fufu ในเมืองไทยจะนำเสนอจุดเด่น หรือมีเทคนิคพิเศษอะไรจากญี่ปุ่นที่จะนำมาใช้บ้าง
คุณเคน : เรามีความต้องการที่จะนำเสนอทักษะทางเทคนิคที่ละเอียดอ่อนและประณีตในแบบญี่ปุ่น รวมถึงระบบที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การทำสีผมที่มีคุณภาพ และบริการที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้ลูกค้าได้รับสีผมที่ต้องการในขณะที่ลดความเสียหายต่อเส้นผมให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ เรายังต้องการสร้าง Brand ที่เป็นมิตรและมีความสนุกสนาน ที่ประเทศญี่ปุ่น Brand ของเราตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของลูกค้า เช่น การทำสีเพื่อปิดผมขาว ด้วยเฉดสีที่ให้ความเป็นธรรมชาติ และเรามีแผนที่จะเสนอทางเลือกในการทำสีผมแฟชั่นที่หลากหลายในประเทศไทยเช่นกัน เพื่อช่วยให้ผู้คนได้มีความมั่นใจ มีความเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตด้วยผมที่สวยงามครับ สำหรับช่างผมไทย เราอยากร่วมงานกับช่างผมไทยเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพัฒนาทักษะของช่างผมไทยในส่วนที่เราเชี่ยวชาญครับ ร้าน fufu ในประเทศไทยต้องการให้ช่างผมไทยมีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ผมที่สวยงามให้กับลูกค้าไทยครับ “Work With Us & Learn With Us” พวกเราในฐานะ ‘ช่างผม’ ก้าวไปด้วยกัน ทำงานและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันครับ
ผลิตภัณฑ์ที่จะเลือกมาใช้ในร้าน fufu จะมีแบรนด์ไหนบ้าง
คุณเคน : ปัจจัยแรกที่เราให้ความสำคัญก็คือ เรื่องคุณภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อลูกค้าจริงๆ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ โดยเราจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งจะเลือกใช้แบรนด์อื่นๆ โดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งในส่วนผลิตภัณฑ์หลายๆ แบรนด์ของบริษัท OCC ต่างก็มีประวัติความเป็นมายาวนานและมีความน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพ ก็จะเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ เช่นกัน โดยเฉพาะแบรนด์ DEMI ที่เราจะนำมาใช้ที่ร้าน fufu เพราะที่ผ่านมามีโอกาสได้พัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ร่วมกันที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้สัมผัสได้ถึงคุณภาพ อีกทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ที่ตรงกับความต้องการของร้าน fufu
ช่างผมไทยที่ทำงานในร้าน fufu ได้รับการเทรนนิ่งเป็นพิเศษจากญี่ปุ่นด้านไหนบ้าง
คุณเคน : ช่างทำผมไทยจะได้รับการฝึกอบรมโดยอิงจากประสบการณ์ในร้านทำผมของญี่ปุ่นและเทคนิคการทำสีผมที่มีประสิทธิภาพสูงที่เราร่วมพัฒนากับ NORA, รวมไปถึงการทำสีผมแบบ Highlight, Inner Color, Balayage หรือการฟอกสีผมเพื่อทำ Design Color ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาฝีมือและทักษะให้ช่างผมไทยอย่างแน่นอน
ทราบว่าในอนาคตจะมีการเปิด Academy สอนเทคนิคทำผมสไตล์ญี่ปุ่นให้กับช่างผมไทย ช่วยเล่าถึงที่มาของเรื่องนี้
คุณเคน : หลังจากที่ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับช่างผมชาวไทยทั้งในร้านซาลอนและช่องทางออนไลน์ เราพบว่าประเทศไทยมีมาตรฐานด้านความงามที่สูงมากในเอเชีย และผมเองก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากช่างผมไทยด้วย ในขณะเดียวกันทางญี่ปุ่นก็มีมาตรฐานทางเทคนิคที่สูง ซึ่งมีความละเอียดอ่อนและประณีตมาก เราจึงเชื่อว่าการผสมผสานจุดแข็งเหล่านี้ของทั้งสองประเทศ จะช่วยให้อุตสาหกรรมความงามของไทยเติบโตขึ้นไปอีก ซึ่งเราเองก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาครั้งนี้ครับ
เป้าหมายในอนาคตของร้าน fufu ในเมืองไทย
คุณเคน : เป้าหมายหลักของเรา คือ การสร้างรอยยิ้มให้ผู้คนในประเทศไทย ด้วยการสร้างสรรค์เส้นผมที่สวยงามให้ได้มากที่สุดครับ ส่วนเป้าหมายในเรื่องการขยายสาขานั้น เราไม่ได้ยึดติดกับจำนวนสาขา แต่หากเป็นไปได้เรามีความตั้งใจที่จะขยายสาขาไปให้ได้ถึง 30, 50 หรือ 100 สาขาในอนาคต เรามองว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงสำหรับเรื่องนี้ผ่านการขยายสาขาและการพัฒนาสถาบัน เราหวังว่าการขยายสาขา และการพัฒนาสถาบันของเราจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาทักษะทางเทคนิคให้กับช่างผมไทย และพัฒนาอุตสาหกรรมความงามของไทยไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งเป็นโอกาสที่ดีที่เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากประเทศไทยด้วยครับ
ฝากถึงกลุ่มลูกค้า และช่างผมไทย
คุณเคน : เมื่อ Academy ของเราเปิดตัว ก็อยากเชิญชวนช่างผมไทยทุกท่านที่มีความสนใจเข้ามาเรียนรู้ทักษะต่างๆ ที่เราได้รับจากลูกค้าและช่างเสริมสวย ซึ่งทำให้เราเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และหวังว่าความรู้ และประสบการณ์ที่มีค่าเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันเชิงบวกให้กับทุกคนได้ต่อไปครับ สำหรับร้าน fufu สาขาแรกในเมืองไทยจะเปิดตัวในย่านทองหล่อ ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2567 นี้ มีบริการที่ครอบคลุมทั้งการทำสีเพื่อปิดผมขาวและการทำสีผมแฟชั่น ซึ่งทุกขั้นตอนในการดูแลจะเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่นครับ
fufu แปลว่าเสียงหัวเราะ การนำเสนอตัวตนที่ตรงไปตรงมา ไร้ซึ่งความซับซ้อน บนพื้นฐานความต้องการที่จะสร้างความสุขให้กับลูกค้า และความปรารถนาที่จะพัฒนาศักยภาพช่างผมไทย ทำให้เรามองเห็นภาพว่าธุรกิจซาลอนแห่งนี้ไม่เพียงแค่มาสร้างมวลความสุข ผ่านสีผมที่สวยงามเท่านั้น แต่จะมาเพิ่มความแข็งแรงให้กับซาลอนไทยในอีกทางหนึ่งด้วย เหมือนที่คุณเคนได้พูดไว้ในบทสัมภาษณ์อย่างหนักแน่นว่า “Work With Us & Learn With Us” พวกเราในฐานะ ‘ช่างผม’ ก้าวไปด้วยกัน ทำงานและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน