หลังจากร้านบาร์เบอร์ ร้านตัดผมทั้งหลายถูกสั่งปิดมานานกว่า 1 เดือน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 มาถึงตอนนี้ภาครัฐมีคำสั่งปลดล็อก ผ่อนปรนให้เปิดร้านได้แล้ว แต่การเปิดร้านในช่วงที่โควิด-19 ยังไม่หมดไป ชาวบาร์เบอร์จะต้องปรับตัวอย่างไรเพื่อให้อยู่รอด และมาตรการต่างๆ ของทางภาครัฐเหล่านี้ ชาวบาร์เบอร์คิดเห็นกันอย่างไรบ้าง ตามมาฟังเสียงสะท้อน และทรรศนะคติจาก 3 ช่างบาร์เบอร์ชื่อดังแห่งยุคนี้กัน เริ่มจาก คุณขวัญ-ชวิน นันทเทิม แห่ง Black Amber, คุณจอห์น-ชัชวาล พัวธัญวงศ์ แห่ง The White Box และ คุณเอ-ศักดิ์ศิริ จุลกะเศียน แห่งร้าน Sxissors Container Barbershop
ได้รับผลกระทบอะไรบ้างจากโควิด-19
คุณขวัญ: ร้านเราติดตามข่าวเกี่ยวกับโควิด-19 พอเริ่มระบาดหนักขึ้น เราก็รับมือปรับตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น เริ่มให้ช่างใส่ถุงมือ, ทำความสะอาดอุปกรณ์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และอบ UV ทุกหัว รวมถึงงดรับลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวบางส่วน แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจจนกระทั่งมีคำสั่งจากรัฐว่าให้ปิดกิจการ เราก็เห็นด้วยและรู้สึกสบายใจมากขึ้น ส่วนผลกระทบจากการปิดร้านแน่นอน คือค่าเช่าของทุกสาขาที่ยังดำเนินต่อ และเงินช่วยเหลือจุนเจือพนักงานทุกคนในเดือนแรก โดยที่ร้านไม่สามารถหารายได้จากการดำเนินกิจการได้เลย ซึ่งในส่วนของพนักงานทุกคนทราบและเข้าใจสถานการณ์ดีอยู่แล้วว่าต้องมีการปิดร้านจึงไม่มีใครตกใจอะไร บางคนมีไปให้บริการตัดผมนอกสถานที่บ้าง, บางคนมีไปขับรถส่งของบ้าง และบางคนใช้โอกาสนี้กลับต่างจังหวัดเพื่อลดค่าใช้จ่ายเรื่องที่พักอาศัย
คุณจอห์น: ช่วงแรกๆ ที่มีคำสั่งปิดร้านทำผมก็ไม่รู้สึกกังวล มีความคิดที่จะปิดร้านก่อนมีคำสั่งอยู่แล้ว เพราะเป็นห่วงน้องๆ ที่ร้านเพราะเราอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เรายินดีที่จะร่วมมือกับทางภาครัฐในการช่วยลดการแพร่เชื้อต่างๆ พอสถานการณ์เริ่มรุนแรงผมก็ช่วยเหลือดูแลน้องๆ ซื้อประกันโควิดให้ ซัพพอร์ตเรื่องเงินเท่าที่ช่วยได้ ส่วนเรื่องค่าเช่าหลังจากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ทางผู้ให้เช่าก็เข้าใจ ไม่คิดค่าเช่า ต้องถือว่าโชคดีมาก ผลกระทบเรื่องนี้ก็เลยไม่มี จะมีปัญหาเรื่องสินค้าคงเหลือในร้าน แต่โชคดีที่เป็นพวกของที่ลูกค้าซื้อกลับไปใช้ที่ร้านได้ เช่น แว็กซ์ แชมพู ก็พยายามทำออนไลน์เพื่อระบายของออกไป ทำให้มีรายรับบางส่วนจากการขายออนไลน์ด้วย
คุณเอ: ช่วงแรกๆ ที่โดนสั่งปิดรู้สึกตกใจนิดหน่อยครับ เพราะพอคำสั่งมาก็ปิดเลยแทบไม่มีเวลาให้เราได้ตั้งตัว มันไม่ค่อยชินเท่าไหร่เพราะเราทำงานจนแทบไม่มีเวลาอยู่บ้านเลยแต่ต้องมาอยู่บ้านเฉยๆ ก็มองในแง่ดีไปจะได้มีเวลาให้ครอบครัว ส่วนผลกระทบจากการปิดร้านนี่ผมโดนเต็มๆ ครับ รายจ่ายเท่าเดิมแต่รายรับ 0 บาท ทั้งบ้านผมหาเงินคนเดียวเพราะภรรยาต้องเลี้ยงลูกอ่อน ค่าที่ ค่าลูกน้อง ค่ากิน อื่นๆ อีกจิปาถะที่ต้องแบกนับ 10 ชีวิต
คุณจอห์น-ชัชวาล พัวธัญวงศ์
มีความเห็นอย่างไรบ้างเกี่ยวกับมาตรการของภาครัฐ
คุณขวัญ: ผมเชื่อว่าการผ่อนปรนครั้งนี้มีส่วนเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจไม่ทรุดหนัก แต่จะต้องคอยระวังอย่าให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันกลับมาสูงอีก จึงออกข้อจำกัดในการบริการมาให้ และหากผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอีก อาจมีการสั่งปิดอีกครั้ง ซึ่งถ้ามีการปิดกิจการเป็นครั้งที่สอง ผมเชื่อว่ากิจการขนาดเล็กจำนวนมากอาจไม่รอดจากการขาดสภาพคล่องเพราะเหลือเงินกันไม่มากแล้ว ผมจึงอยากให้ร้านตัดผมทุกๆ ร้านมีมาตรการควบคุมอย่างเข็มงวดเต็มที่เพื่อไม่ให้เกินการแพร่ระบาดอีกครั้ง
คุณจอห์น: ในส่วนของบาร์เบอร์ไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไหร่ และเชื่อว่าช่างผมก็จะต้องปรับตัวเข้าหามาตรการของรัฐที่เสนอมาด้วย เพราะในช่วงที่มีมาตรการผ่อนปรนแบบนี้ ร้านทำผมอยู่ให้กลุ่มแรกที่เปิดได้ก็ยิ่งต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อช่วยปลดล็อกให้กลุ่มที่ 2, 3 และ 4 ต่อไป และถ้าย้อนกลับไปดูสมัยที่เราเรียนตัดผม หรือข้อปฏิบัติในการเปิดร้าน มาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสวมถุงมือขณะทำงาน หรือสวมหน้ากากอนามัยก็เป็นสิ่งที่ช่างผมต้องทำกันอยู่แล้ว เพียงแค่เราอาจจะไม่ค่อยสนใจหรือภาครัฐไม่ใส่ใจเข้ามาตรวจสอบ แม้แต่ตัวลูกค้าเองก็ไม่เคยรู้ข้อมูลพวกนี้ ผมว่าเรื่องนี้เป็น New Normal ที่ช่างต้องหันมาใส่ใจกัน ลูกค้าก็ต้องรู้ข้อมูลเรื่องนี้ด้วย
คุณเอ: มาตรการของรัฐที่ให้ผ่อนปรนเปิดร้านได้แต่มีข้อจำกัด ส่วนตัวผมที่เป็นช่างบาร์เบอร์ถือว่าโอเคครับ แต่เห็นใจช่างผมที่ทำซาลอนครับที่เขารับงานเคมีไม่ได้ซึ่งเป็นรายได้หลักของพวกเขา
ชาวบาร์เบอร์ควรปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดในช่วงโควิด
คุณขวัญ: สำหรับคนที่ไม่มีเงินเก็บเลยจะลำบากมาก จึงจำเป็นต้องหาช่องทางทำรายได้ให้ได้เช่นตัดผมนอกสถานที่ หรือทำงานอื่นไปก่อน ส่วนคนอื่นๆ ที่ยังรอได้จะต้องใจเย็นๆ อย่าเพิ่งตระหนกหรือด่วนสรุปอะไรเพราะข่าวสารต่างๆ อาจไม่ค่อยมีความชัดเจนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอด จึงอาจทำให้เราสับสนและตัดสินใจอะไรผิดผลาดได้ ส่วนตัวผมเองในช่วงแรกยุ่งกับการปรับแผนการเงินของร้านเพื่อให้ทุกอย่างยังรอดไปได้ และมองหาช่องทางเตรียมปรับตัวหลังกลับมาเปิด เพราะเชื่อว่าหลายอย่างจะเปลี่ยนไปจากสถานการณ์นี้ ผมคิดว่าในอนาคตร้านตัดผมจะมีความคล้ายคลีนิคทันตกรรมหรือคลีนิคแพทย์มากขึ้นในแง่ของความสะอาดและอุปกรณ์ค่าเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ค่าตัดผมมีราคาที่ขยับสูงขึ้น และการตัดผมนอกสถานที่อาจมีความนิยมมากขึ้นอีก
คุณจอห์น: อยากให้ช่างผมรุ่นใหม่ปรับเรื่องทัศนคติในการทำงาน หรือปรับความคิด อย่างเช่นทุกวันนี้บาร์เบอร์ไม่จำเป็นที่จะต้องตัดผมชายอย่างเดียวแล้ว เพราะลูกค้ามีความต้องการที่หลากหลายขึ้น ลูกค้าผู้หญิงเริ่มเข้าบาร์เบอร์มากขึ้น ถ้าช่างบาร์เบอร์ทำได้หลายอย่าง ทำเคมีได้ด้วย ก็จะมีทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น เป็นการช่วยสร้างมูลค่า ผลตอบแทนให้ทางร้านเรามากขึ้นด้วย ก็อยากให้ลองไปหาเวลา หรือเรียนรู้เพิ่มเติมกัน ซึ่งในช่วงโควิดแบบนี้ก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีให้เราได้เรียนรู้ เสริมทักษะต่างๆ เพิ่มเติม
คุณเอ: อยากให้เริ่มต้นแบบง่ายๆ ก่อนเลย คือเรื่องความสะอาดความปลอดภัยเกี่ยวกับโรคโควิด-19 เช่น วัดไข้ลูกค้า ใส่ถุงมือ ใส่แมส ใส่เฟซชิลด์ ล้างมือและเครื่องมือด้วยแอลกอฮอล์ ทำตามกฏของรัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อตัวเลขผู้ป่วยจะได้ไม่เพิ่มขึ้น ถ้าเพิ่มขึ้นคงมีแววโดนสั่งปิดอีกรอบ
วิกฤติโควิดให้บทเรียนอะไรกับชาวบาร์เบอร์บ้าง
คุณขวัญ: บทเรียนแรกที่ได้คือกิจการทุกกิจการควรมีเงินสำรองเก็บไว้จำนวนหนึ่ง ในกรณีที่กิจการไม่มีรายได้จากการดำเนินการเลย เงินส่วนนี้จะมาต่อชีวิตเราไปได้อีกระยะ บทเรียนที่สองคือความสำคัญของฐานลูกค้าประจำ หากช่างหรือร้านใดที่มีฐานลูกค้าประจำหนาแน่นพอ ก็จะสามารถมั่นใจได้ว่าหลังได้กลับมาเปิด กิจการจะฟื้นตัวได้เร็วโดนไม่ต้องหวังพึ่งลูกค้าขาจรก็จะสามารถอยู่รอดได้ ผมคิดว่าในอนาคตร้านตัดผมจะมีความคล้ายคลีนิคทันตกรรมหรือคลีนิคแพทย์มากขึ้นในแง่ของความสะอาดและอุปกรณ์ค่าเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ค่าตัดผมมีราคาที่ขยับสูงขึ้น และการตัดผมนอกสถานที่อาจมีความนิยมมากขึ้นอีก
คุณจอห์น: ปัญหาหลักๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะช่างผม แต่ทุกคนทุกอาชีพเจอกันก็คือเรื่องของเงิน เรื่องของสภาพคล่อง หลังจากนี้ทุกคนจะต้องรู้จักเรื่องการออมเงิน การวางแผนการเงินกันให้ดี และอีกเรื่องก็คือส่วนตัวผมเองได้เรียนรู้เรื่องของเทคโนโลยี เรื่องระบบออนไลน์ต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้ต่อยอดในอาชีพช่างผมได้ เช่น การขายของออนไลน์ หรือการไลฟ์สด ที่ช่วยให้ผมได้คุยกับเพื่อนๆ ได้แชร์สิ่งที่เป็นประโยชน์ ก็ถือว่าวิกฤตินี้ก็ยังมีแง่มุมที่ดี อยู่ที่ว่าคุณสนุกกับวิกฤตินี้ยังไง
คุณเอ: บทเรียนจากวิกฤติครั้งนี้ค่อนข้างจะหนักสำหรับช่างผม และเกือบทุกอาชีพ จนผมต้องกลับมาวางแผนชีวิตใหม่แทบจะทั้งหมดเรื่องเกี่ยวกับรายรับรายจ่าย
อยากบอกอะไรกับรัฐบาลบ้าง
คุณขวัญ: ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยได้ติดตามการเมืองเท่าไหร่ แต่สถานการณ์นี้ทำให้จำเป็นต้องติดตามข่าว ทั้งเรื่องการควบคุมการระบาด และเรื่องเศรษฐกิจ จึงเห็นว่าสถานการณ์นี้ได้ส่งผลเสียและสร้างความท้าทายให้ทุกฝ่ายจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเองหรือประชาชนเอง ในคำถามข้อนี้จึงอยากฝากถึงทุกฝ่ายว่าการจะพ้นจากสถานการณ์แบบนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และเร็ว ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างมาก และที่สำคัญทุกคนควรจะต้องรู้จักและเข้าใจหน้าที่ของตัวเอง และทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าในบางครั้งเราอาจเห็นความบกพร่องหรือไม่เห็นด้วยกับการทำหน้าที่ของคนอื่นๆ ก็ขอให้คอมเมนท์หรือเสนอแนะอย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ โดยระมัดระวังไม่ให้เกิดผลเสียหรือเพิ่มความรู้สึงแง่ลบมากนัก เพราะจะทำให้สถานการณ์นี้ยากขึ้นไปอีก ผมว่าเราทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ แต่ก็มีหน้าที่รักษาและเยียวยาสังคมในส่วนของเราเช่นกัน ถ้าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้วผมเชื่อว่าเราจะผ่านวิกฤตไปได้
คุณจอห์น: ขอชื่นชมการทำงานของรัฐบาล และในส่วนของคุณหมอ ที่ประสานงานกันในการแก้ปัญหาและลดการระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี แต่ในเรื่องมาตรการหรือคำสั่งบางอย่างก็อยากให้มีความชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งในเรื่องของความรวดเร็ว กล้าตัดสินใจ และดำเนินการให้เข้มงวด เช่น ในเรื่องของ Fake News หรือข่าวปลอมต่างๆ ที่ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก
คุณเอ: อยากจะขอบคุณที่ให้เราออกตัดผมนอกสถานที่ได้ และยังปลดล็อกอาชีพช่างผมให้เราเป็นเป็นอาชีพแรกๆ ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาผู้ติดเชื้อ มองภาพรวมๆ แล้วรัฐบาลบ้านเราถือว่าแก้ปัญหาได้ดี ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างชัดเจน จนทำให้ประเทศเราคลายล็อคได้บางส่วน ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนครับ
ฝากถึงพี่น้องชาวบาร์เบอร์
คุณขวัญ: ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังเผชิญกับความท้าทายนี้ครับ และผมเชื่อว่ากิจการที่อยู่รอดจากสถานการณ์นี้ได้ สามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็นผู้รอดชีวิตที่แข็งแกร่ง เพราะทุกคนได้รับประกาศนียบัตรจากบททดสอบที่ยากหินนี้เรียบร้อยแล้ว
คุณจอห์น: อยากให้ทุกคนตั้งสติ เสพสื่อโซเชียลแต่พอดี หรือลองออกไปหาอะไรทำใหม่ๆ เช่น สิ่งที่จะสร้างรายได้ให้กับเรา อาจจะไม่ต้องได้กำไรเยอะ อย่างน้อยแค่ทำให้เราหลุดออกมาจากการจมอยู่กับความเครียดหรือความคิดด้านลบ พยายามทำหรืออยู่กับสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข หลังจากได้เปิดร้านก็ขอให้เตรียมตัว ทำงานหนักกันได้เลย เพราะเหมือนกับเราต้องเริ่มต้นเปิดร้านกันใหม่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน อยากให้ทุกคนสู้ๆ ครับ
คุณเอ: เป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านวิกฤติโควิดนี้ไปให้ได้ ถึงมันจะสาหัสกันไปตามๆ กัน ผมเชื่อว่ากลับมาเปิดรอบนี้ลูกค้าคงจะล้นๆ กันทุกร้าน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ตัดผมเลย ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอครับ แล้วก็ฝากไว้ให้คิดหน่อยครับ “เวลาจ่ายอย่าลืมเวลาจน” ขอบคุณครับ
การให้กำลังใจกันในวันที่ยากลำบากเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราจะผ่านพ้นวิกฤตินั้นไปไม่ได้เลย ถ้าตัวของเราเองไม่ปรับตัว ปรับความคิด ปรับทัศนคติ เพราะในอนาคตแม้โควิด-19 จะหมดไป แต่หลายๆ อย่างในชีวิตเราคงเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การปรับตัวให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์จึงสำคัญเช่นกัน Hairworld Plus+ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ อดทน และผ่านช่วงเวลาแห่งบททดสอบนี้ไปให้ได้…แล้วเราจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน