ไขความลับเทคนิคการทำผมสไตล์ญี่ปุ่นสุดเพอร์เฟ็กต์
กับ Satoru Tsuchiya & Someya Kosie
ถือเป็นโอกาสสุดพิเศษที่สองสุดยอดท็อปสไตลิสต์ Satoru Tsuchiya (ซึจิยะซัง) จาก Minx Ginza และ Someya Kosie (โคเซย์ซัง) จาก Uka บินลัดฟ้าจากประเทศญี่ปุ่นมาเข้าร่วม CUT & COLOR WORKSHOP 2017 โดย Milbon กับ ABA (Asia Beauty Academy) ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อแบ่งปันเทคนิคใหม่ๆ ในการตัดผมจากวงการช่างผมญี่ปุ่น เพื่อแฮร์สไตลิสต์ของประเทศไทยโดยเฉพาะ วันนี้ Hairworld Plus พาคุณผู้อ่านมาร่วมเจาะลึกถึงเคล็ดลับการทำผมของทั้ง Satoru Tsuchiya และ Someya Kosie มั่นใจได้เลยว่าเมื่ออ่านจบแล้ว เหล่าช่างผมต้องได้เคล็ดลับที่น่าสนใจติดไม้ติดมือกลับไปพัฒนาฝีมือการทำผมของตัวเองไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
Satoru Tsuchiya (ซึจิยะซัง)
Hairworld Plus : ความรู้สึกหลังจาก Workshop
ซึจิยะซัง : ผู้เข้าร่วมอบรมในวันนี้ค่อนข้างเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และมีทัศนคติที่ดี รวมถึงมีความตั้งใจและความพยายามในการทำผมมากๆ ครับ
Hairworld Plus : สาเหตุที่ร่วมกับ Milbon?
ซึจิยะซัง : เพราะ ABA กับ Milbon มีความตั้งใจร่วมกัน สำหรับ Milbon มีคติพจน์ว่าหากผมของลูกค้าสวย ก็จะทำให้คนคนนั้นสวยจากภายใน ซึ่งทาง ABA ก็มีแนวคิดแบบเดียวกัน
Hairworld Plus : ปัจจุบันทำอะไรอยู่บ้าง?
ซึจิยะซัง : ผมมีร้านทำผมชื่อ Minx Ginza ที่ญี่ปุ่
น หน้าที่ของผมในร้านคือการทำให้ลูกค้ามีความสุขด้วยการแปลงโฉมให้เธอสวยที่สุด และทำหน้าที่เป็น Staff Educator คอยสอนน้องๆ พนักงานที่ร้าน Minx Ginza เพื่อให้ทุกคนสามารถนำความรู้ที่ได้จากผมไปสอนต่อได้ และทำหน้าที่หลักๆ ใน ABA เป็น Instructor Educator ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีอยู่ประมาณ 12 คน รวมผมและโซเมยะซังด้วย โดยทุกคนต้องเข้าร่วมประชุมทุกเดือน เพื่อนำความรู้ที่ได้จากการประชุมไปอบรมและสอนในต่างประเทศต่อไป สำหรับญี่ปุ่นจะมีวัฒนธรรมของคนผมดำเช่นเดียวกับชาวเอเชีย คนไทยเองก็เช่นกัน ซึ่งหน้าที่ของผมก็คือการแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดวัฒนธรรมผมดำแบบญี่ปุ่นให้กับวัฒนธรรมผมดำของประเทศต่างๆ นั่นเองครับ
Hairworld Plus : ในฐานะที่ซึจิยะซังเป็นผู้นำเทรนด์ จึงอยากทราบว่าช่วง Autumn-Winter ที่โตเกียว เทรนด์ทรงผมและสีผมแบบไหนที่กำลังมา?
ซึจิยะซัง : เทรนด์ที่มาแรงในช่วงนี้จะเป็นทรงผมที่มีเลเยอร์และการทำไฮไลท์ด้วยโทนสีชมพูแอชครับ
Hairworld Plus : ซึจิยะซังเขียนหนังสือเกี่ยวกับการสอนตัดผมให้กับสถาบันของตัวเองด้วย Hairworld Plus จึงอยากทราบว่าทำไมซึจิยะซังที่เป็นแฮร์สไตลิสต์ถึงมีความสนใจด้านงานเขียน?
ซึจิยะซัง : สถาบันของผมมีการเขียนหนังสือคู่มือหลายชนิด ทั้งคู่มือการตัด ดัด ทำสี และยังมีคู่มือเกี่ยวกับการวิจัยผลิตภัณฑ์แต่ละตัวในร้าน ซึ่งจะมีการตั้งทีมวิจัยขึ้นมา คู่มือเกี่ยวกับการบริการ หรือแม้กระทั่งคู่มือสำหรับการสระผมโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละทีมที่จัดทำคู่มือแต่ละแบบจะมีหัวหน้าประจำทีม โดยทุกทีมก็จะมีการประชุมและออกความคิดเห็น รวมถึงเขียนคู่มือร่วมกันครับ
Hairworld Plus : เดินทางไป Workshop กี่ประเทศแล้ว และแต่ละประเทศมีการทำงานต่างกันอย่างไร?
ซึจิยะซัง : ผมเดินทางไป Workshop มาทั้งหมด 4 ประเทศครับ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย จีน และเกาหลี ซึ่งแต่ละประเทศจะมีลักษณะของการอบรมที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นประเทศเกาหลี จะเน้นอบรมเป็นร้าน โดยในหนึ่งร้านจะรวมท็อปสไตลิสต์มาเรียนด้วยกัน แต่ถ้าเป็นประเทศจีน ไทย อินโดนีเซีย จะเชิญท็อปสไตลิสต์ของหลายๆ ซาลอนมาเรียนร่วมกัน
Hairworld Plus : ฝากข้อความถึงช่างผมในไทย
ซึจิยะซัง : อยากให้ทุกคนสนุกไปกับการทำงาน อย่างเวลาที่เราทำงานที่ร้านซาลอน สมมติว่าตื่นเช้าขึ้นมา ถึงร้านปุ๊บ ทำความสะอาด รับลูกค้าเสร็จก็ปิดร้านปั๊บ อย่างนี้ผมถือว่าเป็นการทำงาน ซึ่งเราไม่ควรทำแค่สิ่งที่เขาบอกเพียงอย่างเดียว แต่ขณะที่ทำงานควรคิดไปด้วยว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ และอะไรคือสิ่งที่เราทำได้ แล้วเราจะรู้สึกสนุกกับงานมากขึ้น นอกจากนี้ ผมก็อยากให้ทุกคนลองค้นหาตัวเองให้เจอ ในแต่ละวันที่ทำงาน เราก็มักจะได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ เมื่อเราค้นพบว่ามีบางอย่างที่มีแค่เฉพาะเราเท่านั้นที่สามารถทำได้ เราก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและมีพลังในการทำทุกอย่างให้เต็มที่มากขึ้น เหล่านี้ถือเป็นทริคอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ในแต่ละวันของเราสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อครับ
Someya Kosie (โคเซย์ซัง)
Hairworld Plus : ความรู้สึกหลังจาก Workshop
โคเซย์ซัง : ผู้ที่มาอบรมวันนี้ทุกคนค่อนข้างทำได้ดีครับ
Hairworld Plus : ในฐานะที่โคเซย์ซังมีชื่อเสียงในการออกแบบทรงผมที่โดนใจลูกค้า จึงอยากทราบว่ามีเทคนิคอะไรถึงจะรู้ได้ว่าลูกค้าคนไหนเหมาะกับสไตล์ไหน?
โคเซย์ซัง : หัวข้อที่เราอบรมกันวันนี้ก็จะมีหัวข้อหนึ่งที่ซึจิยะซังพูดถึงการดีไซน์คนคนหนึ่งให้มีทรงผมที่รับกับใบหน้าและองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งผมจะเริ่มจากการเรียนรู้และทำความเข้าใจก่อน เนื่องจากผมเป็นสไตลิสต์มานานหลายปี ทางญี่ปุ่นเขาจะเรียกว่า “เริ่มรู้ว่าตัวเองมีสีอะไร” หรือเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองมีสไตล์แบบไหน ผมก็จะเอาสไตล์ในเรื่องของการเช็กโครงหน้าว่าโครงหน้าแบบนี้เหมาะกับทรงผมแบบไหนมาใช้ แล้วค่อยๆ แนะนำลูกค้าไปทีละขั้น
Hairworld Plus : อยากให้เล่าถึงเทคนิคการตัดผมอันรวดเร็ว
โคเซย์ซัง : ร้านของผมมีลูกค้าค่อนข้างเยอะ ผมจึงต้องรักษาเวลา เมื่อลูกค้าจองคิว ผมจึงต้องรีบเพื่อไม่ให้เขารอ พอทำงานแบบนี้ไปทุกวัน มือและสมองของผมก็จะเริ่มชินและทำงานได้เร็วขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
Hairworld Plus : เดินทางไป Workshop กี่ประเทศแล้ว และแต่ละประเทศมีการทำงานต่างกันอย่างไร?
โคเซย์ซัง : ไปมา 3 ประเทศครับ คือ ไทย รัสเซียและอเมริกา ส่วนใหญ่แต่ละประเทศจะเน้นในเรื่องของการตัดผมเป็นหลัก ผมจึงนำพื้นฐานของการตัดผมแบบญี่ปุ่นมาประยุกต์ให้เกิดเป็นสไตล์ของแต่ละประเทศ อย่างเช่นตอนที่ไปรัสเซีย ผมก็ได้มีโอกาสไปทำแฮร์โชว์มาด้วย
Hairworld Plus : ความท้าทายของการทำงานที่ผ่านมา
โคเซย์ซัง : ความท้าทายในการทำงานของผมคือการที่ได้พบเจอลูกค้าหลากหลายรูปแบบ เมื่อทำอาชีพนี้นานๆ เข้า ผมก็เริ่มออกให้ความรู้ อบรมช่างผมอื่นๆ ซึ่งถือเป็นความท้าทายมากสำหรับวงการนี้ครับ
Hairworld Plus : ฝากข้อความถึงช่างผมไทย
โคเซย์ซัง : ผมอยากเชิญชวนช่างผมไทยให้ลองมาที่ญี่ปุ่น เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมและมุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิม จะได้นำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ให้เกิดสไตล์การทำผมใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้น
การพูดคุยในครั้งนี้ ไม่ได้บอกเล่าถึงเพียงเทคนิคการทำผมเท่านั้น แต่เรายังได้เรียนรู้ทัศนคติและมุมมองในการทำงานของ Satoru Tsuchiya และ Someya Kosie ที่เมื่อได้ฟังแล้วก็ทั้งรู้สึกนับถือและรู้สึกฮึกเหิมอยากลุกขึ้นมาค้นหาตัวเองเสียเดี๋ยวนี้เลยทีเดียว ทาง Hairworld Plus ต้องขอขอบคุณ Milbon และ ABA (Asia Beauty Academy) ที่มอบโอกาสดีๆ แบบนี้แก่ช่างผมบ้านเราเป็นอย่างยิ่ง