ไม่ใช่แค่ร้านทำผมในกรุงเทพฯ เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด 19 จังหวัดขอนแก่นก็โดนหนักไม่แพ้กัน โดยล่าสุดเจ้าของร้าน “อ้วนบาร์เบอร์” ร้านตัดผมในตำนานที่อยู่คู่เมืองขอนแก่นกว่า 50 ปี ก็ต้องขอยอมแพ้ จำใจปิดร้านทั้งน้ำตา พร้อมทั้งวอนขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาโควิดอย่างจริงจัง และออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กให้ชัดเจนมากขึ้น
โดยนายวิเชียร ภูมิบ้านค้อ หรือ ลุงอ้วน อายุ 70 ปี เจ้าของร้านอ้วนบาร์เบอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดใจหลังจากสั่งให้ทีมช่างตัดผมประจำร้านช่วยกันจัดเก็บอุปกรณ์ตัดผม และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อเตรียมส่งมอบพื้นที่คืนให้กับ มข. เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 64 ว่า เป็นการตัดสินใจที่ยากมากในการที่จะปิดร้านตัดผมที่ตนเองและครอบครัวรัก เพราะเป็นอาชีพที่ทำมานานกว่า 50 ปี ส่งลูกจนจบมหาวิทยาลัย และเป็นร้านตัดผมคู่ จ.ขอนก่น และมหาวิทยาลัยขอนแก่น มาอย่างยาวนาน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ลูกค้าลดลงทุกวัน และยังต้องถูกคำสั่งปิดการให้บริกาตามประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดและ ศบค. ร้านก็เข้าใจและให้ความร่วมมือในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อที่ทุกคนจะก้าวผ่านวิกฤติเหตุการณ์นี้ไปด้วยกันให้ได้โดยเร็ว
“จำได้ว่าเมื่อมีคำสั่งคลายล็อคหลังการระบาดรอบแรก ร้านกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อช่วง ไตรมาส 3 ของปี 2563 ลูกค้ามายืนรอต่อคิวที่ร้านกันมากเพราะไม่ได้ตัดผมมานาน จำได้ว่ามากที่สุดในช่วงนั้นคือวันละประมาณ 80 คน ขณะที่ในวันปกติทั่วไปที่เปิดให้บริการคู่เมืองขอนแก่น และ มข. มานั้น จะอยู่มาวันละประมาณ 20-30 คน ด้วยราคาตัดผมที่ไม่แพงมาก จากเริ่มต้นไม่กี่สิบบาท และวันนี้ยังคงราคาตัดผมที่ไม่แพงเกินไป คือนักศึกษา 70 บาท ประชาชนทั่วไป 80 บาท แต่พอมาระบาดระลอก 2 ต่อเนื่องระลอก 3 และระลอก 4 ในปัจจุบัน ร้านต้องปิดๆเปิดๆ ตามคำสั่งของภาครัฐ ขณะที่ลูกค้าก็ไม่กล้าออกจากบ้าน บางวันเปิดร้านไม่มีลูกค้ามาใช้บริการแม้แต่คนเดียว ร้านก็ต้องแบกรับภาระค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าสถานที่ ซึ่ง มข.ก็ลดค่าเช่าให้บ้างแต่ก็ไม่มากนัก ซึ่งก็เข้าใจในสถานการณ์ แต่เมื่อเรารู้ตัวว่าเราไม่ไหว ก็อย่าฝืนดีกว่า เปิดร้านทุกวัน ขาดทุนทุกวัน และขาดทุนแบบนี้มาเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว เงินหมุนเวียนในร้านก็หมดไป ลูกค้าไม่มี สถาบันการเงินก็เข้าถึงได้ยากจึงตัดสินใจปิดกิจการทั้งน้ำตาและขอกลับไปอยู่บ้านตั้งหลักจะดีกว่า”
ลุงอ้วนยังได้กล่าวขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ใช้บริการร้านลุงอ้วนมานานกว่า 50 ปี เฉพาะร้านที่ตั้งอยู่ใน มข. ก็เกือบ 45 ปี ร้านตัดผมแห่งนี้ถือเป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองขอนแก่นมานาน ลูกค้ามีทุกกลุ่ม ทั้งระดับอธิบดี, ผู้ว่าฯ, ดอกเตอร์, ผู้อำนวยการ, นายร้อย, นายพล ,นายพัน หากมาเรียนที่ มข. แทบทั้งหมดเป็นลูกค้าของร้านเกือบ70 %
“ขอให้ร้านตัดผมเล็กๆแห่งนี้เป็น 1 ในตัวอย่าง ที่รัฐบาลจะต้องชัดเจนและจริงจัง และให้ความช่วยเหลือในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กให้ได้ เปิดโอกาสให้เข้าถึงเงินทุน เข้าถึงโครงการสวัสดิการของรัฐ จะคนละครึ่ง เราชนะ หรือ ม.33 กลุ่มร้านตัดผม หรือร้านเสริมสวย ก็ควรที่จะให้ร้านเหล่านี้ได้เข้าร่วมโครงการ หรือขยายการใช้สิทธิ์ให้ครอบคลุมกว่านี้ เข้าใจว่า รัฐยังต้องทำงานหนักทั้งการต่อสู้กับโรคและบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจ แต่หากไม่ทำอะไรที่ชัดเจน ผู้ประกอบการอีกไม่น้อยก็เตรียมที่จะปิดกิจการลง คนก็จะตกงานมากขึ้นด้วย”ลุงอ้วนกล่าว
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก FB : ข่าวขอนแก่น