แนวความคิดในการบริหารร้านเสริมสวยแตกแยกออกไปตามหลักการจัดการ และแนวความคิดต่างๆ และเริ่มขยายแนวการเรียนรู้มากขึ้น กว้างขึ้น ตามหลักการบริหารจึงเห็นได้ชัดว่า การบริหารร้านเสริมสวยนั้นเป็นเรื่องที่มีการยอมรับว่ามีความสำคัญมากขึ้น หากมองย้อนกลับไป สาเหตุที่สำคัญอาจเป็นเพราะจำนวนร้านเสริมสวยที่เพิ่มมากขึ้นในระยะหลังๆ และอาชีพช่างเสริมสวยเป็นอาชีพที่ทำรายได้ดีจนเป็นที่ยอมรับ
แนวความคิดในการบริหารร้าน สามารถจัดแบ่งตามพื้นที่การใช้งานได้ ดังนี้
- ที่รับแขก หรือแผนกต้อนรับ (Reservation Desk)
- ส่วนที่ทำผมให้ลูกค้า หรือให้บริการในเรื่องอื่นๆ (Stylist Station)
- ส่วนที่สระผมลูกค้า (The Wash House)
- ส่วนที่ให้บริการเรื่องสี (The Color Bar)
บางครั้งยังมีการแบ่งย่อยออกไปได้อีก ดังนี้
- ที่รับแขก หรือแผนกต้อนรับ (Reservation Desk)
- ส่วนที่ทำผมให้ลูกค้า หรือให้บริการในเรื่องอื่นๆ (Stylist Station)
- ส่วนที่สระผมลูกค้า (The Wash House)
- ส่วนที่ให้บริการเรื่องสี (The Color Bar)
- ส่วนที่ให้ลูกค้าได้ทดลองผลิตภัณฑ์ หรือได้ทดลองทำผมเอง (The Tool Bar)
- ส่วนที่แนะนำผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าซื้อกลับไปใช้ที่บ้าน (Take Home)
แต่ละส่วนมีหน้าที่ และทำอะไรบ้าง
Reservation Desk
เป็นจุดเริ่มต้นของร้านเสริมสวย และเป็นบริเวณที่มีความสำคัญ เป็นหน้าตาของร้าน เพราะเป็นบริเวณที่มีการแนะนำว่าในร้านเสริมสวยนั้นๆ มีบริการอะไรบ้าง มีผลิตภัณฑ์อะไรนำเสนอบ้าง ในช่วงนั้นๆ มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง หรือแม้กระทั่งอาจเป็นบริเวณที่ใช้ในการเจรจา ต่อรอง แก้ไขปัญหากับลูกค้า พื้นที่บริเวณนี้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ เพื่อขยายจำนวนลูกค้า เพิ่มรายได้ให้แก่ร้านเสริมสวย กระตุ้นลูกค้าให้มาใช้บริการดีขึ้น และใช้จ่ายมากขึ้นในร้านเสริมสวยเมื่อมาใช้บริการแต่ละครั้ง
Stylist Station
บริเวณนี้เป็นการให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งมีความหมายและขอบเขตกว้างกว่า เก้าอี้ทำผมที่ลูกค้ามานั่งใช้บริการ การให้บริการในที่นี้รวมเลยไปถึงสถานที่ให้ความรู้แก่ลูกค้าเรื่องการบริการ, การทำความรู้จักกับลูกค้า ในแง่มึมการดำเนินชีวิต เพื่อการจัดแต่งทรงผมได้ เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ การสร้างฐานลูกค้าของช่างเสริมสวย และการสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า เราสามารถให้การบริการที่ดีเลิศแก่ลูกค้าในบริเวณนี้ได้ นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังเป็นบริเวณท่ช่างเสริมสวยสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่ายเพื่อเสริมสวยมากขึ้น
The Wash House
เป็นบริเวณที่สำคัญ แต่มักถูกมองข้าม น่าน้อยใจจริงๆ เพราะเป็นบริเวณที่สามารถพลิกแนวความคิดลูกค้าจากการสระผมธรรมดา เป็นการทำสปาที่หรูเริดได้ บริเวณที่สระผมนี้สามารถก่อให้เกิดรายได้มากมาย จนไม่น่าเชื่อเพราะช่างสระผมที่รู้ใจลูกค้า สามารถกล่อมลูกค้าให้เพิ่มการบริการอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายค่ะ แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมเรื่องความสะอาดและบรรยากาศที่ดีๆ ในบริเวณนี้
The Color Bar
บริเวณนี้เน้นในเรื่องของการทำสี ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดรายได้มากที่สุดในยุคนี้ ทำให้ลูกค้าเห็นถึงความเป็นช่างผมมืออาชีพ และยังสามารถที่จะเพิ่มพูนรายได้โดยการชักจูงลูกค้าให้ใช้บริการอื่นๆ อีกด้วย แนวความคิดเรื่อง Color Bar ได้แตกแยกออกไปอีก เช่นในปัจจุบัน มีแนวความคิดที่ว่าควรให้ลูกค้าได้เห็นถึงความยากลำบากของช่างที่กว่าจะมาเป็นสีสันที่สวยงามให้แก่ลูกค้าแต่ละคนนั้นมีความยากเพียงใด ช่างเสริมสวยมีความตั้งใจในการทำงานมากขนาดไหน
ข้อสำคัญคือ ลูกค้าได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่าการทำสีควรมาใช้บริการที่ร้านเสริมสวยไม่ใช่ทำเองที่บ้าน
The Tool Bar
บริเวณนี้จะเป็นเขตที่ลูกค้าได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ และเป็นบริเวณที่ลูกค้าได้ทดลองทำผมด้วยตัวเองอีกด้วย
Take Home
การตกแต่งบริเวณนี้ให้ดึงดูดลูกค้า มีความสำคัญมากเพื่อทำให้ลูกค้าอยากใช้จ่ายซื้อของที่ช่างแนะนำ ผู้บริหารควรตระหนักถึงความสำคัญในการจัดชั้นวางผลิตภัณฑ์และความสะอาดของชั้นด้วยค่ะ บริเวณต่างๆ เหล่านี้มีความสำคัญไม่มากน้อยไปกว่ากัน แต่ไม่ได้หมายความว่าในร้านเสริมสวยแต่ละร้านต้องมีครบทั้ง 6 ข้อ ไม่ว่าร้านจะใหญ่ จะเล็ก หรือมีขนาดใดๆ ก็ตาม คุณอาจจะมีครบทั้งหกบริเวณ หรือไม่ครบขึ้นอยู่กับนโยบาย วัตถุประสงค์ในการจัดการร้านเสริมสวยของแต่ละร้าน แต่โปรดทราบว่าแต่ละส่วนสามารถทำรายได้ให้แก่ร้านได้ ข้อแนะนำในการจัดการการบริหารส่วนต่างๆ จะได้นำเสนอต่อไป