สวัสดีจ้าแฟนๆที่น่ารักทุกคน มาติดตามเรื่องราวสนุกๆแบบอินไซด์ที่เกิดในร้านซาลอนกันดีกว่า รอบนี้ขอพูดถึงมุมมองทางฝั่งลูกน้อง คือ ช่างทำผมกับผู้ช่วยกันบ้าง
มาเริ่มเรื่องที่บรรดาช่างทำผมที่ตัวเป็นหลักในร้านซาลอนกันก่อนแน่นอนว่าช่างผมต้องเป็นคนที่สร้างรายได้ให้กับร้าน ช่างผมบอกเสมอว่างานของนางเป็นงานที่หนักมาก นอกจากจะต้องทำผมให้สวยถูกใจลูกค้าแล้ว ยังต้องคอยเอ็นเตอร์เทนรับอารมณ์ลูกค้า แถมยังต้องทำงานกับผู้ช่วยช่าง ฝึกผู้ช่วยช่างให้เก่งขึ้น พอมาทำงานสายบ้าง เจ้าของหรือผู้จัดการร้านก็ตำหนิสุดชีวิต หรือบางทีเจ็บป่วยต้องหยุดงานไป พอมาถึงเจ้าของร้าน ก็ขอใบรับรองแพทย์ ไม่มีก็หาว่าโกหก แกล้งป่วย บางทีชีก็น้อยใจว่า อาชีพนี้เสี่ยงอันตรายแค่ไหน วันๆ เจอกับความร้อน สูดสารเคมีน้ำยาดัดผม ยืดผมต่างๆ นานา จนไม่รู้ว่าไม่มีอะไรแย่ๆ สะสมอยู่ในร่างกายของนางบ้าง ยังไม่เห็นใจกันอีกออกแมร่งดีกว่า!
ทีนี้มาดูทางฝั่งของผู้ช่วยช่างบ้าง เหล่านางทั้งหลายบอกว่าเหนื่อยกว่าช่างมากกก เงินก็ได้น้อยกว่า งานก็หนักกว่า แถมยังเป็นด่านแรกที่ต้องรองรับอารมณ์ลูกค้า แถมยังต้องถูกแบ่งเวรให้ทำความสะอาดโน่นนี้นั่น ลามไปถึงงานบ้าน พอไม่ทำก็หาว่าขี้เกียจ ว่าแล้วก็ออกดีกว่า จะทนต่อไปก็ไม่คุ้มกันเลย
หลายคนหวังว่าจะหางานได้ง่าย เพราะเห็นพวกป้ายรับสมัครงานประเภท ต้องการรับสมัครช่างผม ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ ยินดีสอนเทคนิคให้ อยู่กันแบบพี่น้อง เจ้าของใจดีมาก ไม่ยุ่งหรือจู้จี้ใดๆ แต่หลายครั้งพอเอาเข้าจริงที่บอกว่า ไม่จู้จี้ แต่โค-ต-ร จุกจิก แล้วไหนบอกจะสอน โนจ้า! ส่วนเรื่องมีประกันให้ก็หักดิบยิบตา สิ้นเดือนจะเหลือถึงตูสักเท่าไหร่กัน แล้วที่บอกว่าอยู่กันแบบพี่น้องก็คงพี่น้องคนละพ่อแม่ ที่ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน มีที่พักให้ก็อารมณ์แบบแดนแปดขังรวม เรียกว่าเหล่าช่างทั้งหลายที่ย้ายออกมาจากร้านเก่ามาร้านใหม่ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้เข้าชัดๆ
เรื่องแบบนี้กลายเป็นปัญหาโลกแตกที่้เราจะเห็นร้านซาลอนขาดช่างกับผู้ช่วยช่างมาตลอด และเราก็จะเห็นช่างผมจำนวนมากหางานมาตลอดเช่นกัน แสดงให้เห็นว่าในธุรกิจนี้มันจะมีการเข้าๆออกๆ เกือบตลอดเวลานอกจากนั้นยังมีการขายกิจการบ่อยๆ โดยเหตุผลที่เคยพบเจอมาก็อย่างเช่น เจ้าของจะต้องย้ายกลับต่างจังหวัดด่วน เสียดายฐานลูกค้าดีมาก หรือทำมาหลายปีแล้ว เหนื่อยเกิ๊น ทำมาสิบกว่าปี แพ้สารเคมีแล้วค่ะ มาแต่ตัว ทำต่อได้เลย ถ้าทำเป็นเองรวยแน่ (อันนี้ก็ชัวร์) เป็นต้น
อ่านๆไปมันช่างเหมือนธุรกิจตาข่าย เอาไว้จับแมลงเข้ากรงเสียเหลือเกิน ปัญหาที่ตามมาคือ คนที่คิดจะลงทุน ตะครุบซาลอนเหล่านี้ แล้วคิดว่าการหาช่างใส่ในร้านเป็นเรื่องที่ง่ายง๊าย และจะต้องรวย รวย รวย ในพริบตา แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น ปัญหาทั้งหมดมันมาจากร้านที่ไม่มีช่างและช่างไม่มีร้าน ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง แต่ขาดความเอาใจเขามาใส่ใจเรา ดังนั้น เรามาค่อยๆแก้ ค่อยๆปรับ เรียนรู้กันไป เชื่อว่า อนาคตวงการซาลอนต้องเฟื่องฟูงดงามแน่นอน