ที่โรงเรียนเสริมสวยชลาชล อาคารบิสทาวน์ ลาดพร้าว พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ลงพื้นให้คำแนะนำแนวทางการป้องกันเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการผ่อนปรนให้สถานประกอบการร้านตัดผม เสริมสวย ที่จะเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ 3 พ.ค.63 พร้อมร่วมหารือกับ ดร.สมศักดิ์ ชลาชล นายกสมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย และเจ้าของธุรกิจเสริมสวยชลาชล พร้อมคณะกรรมการสมาคมฯ อาทิ ดร.ทศพร นพวิชัย และคุณไกรวิทย์ พุ่มสุโข เกี่ยวกับแนวทางมาตรการต่างๆ เมื่อได้รับการผ่อนปรนเพื่อเปิดร้านตัดผม เสริมสวยและวางแนวทางการป้องกันการระบาดจากโรคโควิค19 เพื่อความปลอดภ้ยทั้งตัวช่างและผู้รับบริการ ด้วยมาตรการป้องกันโควิด-19
ดร.สมศักดิ์ ชลาชล นายกสมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย เปิดเผยว่า ก่อนจะเปิดให้บริการ ร้านทำผม ชลาชล จัดเตรียมความพร้อมมาตรการผ่อนปรนป้องกัน COVID-19 โดยเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาด ก่อน-หลัง ใช้บริการตัดผม พร้อมสาธิตวิธีการตัดผมลูกค้า อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมเสื้อคลุม หน้ากากผ้า หรือ หน้ากากอนามัย และสวม Face sheld ส่วนภายในร้าน จะมีการจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ เครื่องอบอุปกรณ์ตัดผม ทำความสะอาดในบริเวณพื้นที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ เช่น เก้าอี้ตัดผม เตียงสระผม ที่นั่งรอรับบริการ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เว้นระยะห่าง เป็นต้น
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร ได้กล่าวย้ำถึงมาตรการของกรมอนามัยในการควบคุมป้องกันเชื้อโควิด-19 มี 4 ข้อ ดังนี้
1) มีการตรวจวัดอุณภูมิร่างกายแก่พนักงานทุกคนที่ให้บริการในร้านตัดผม เสริมสวย (เฉพาะตัด สระ ไดร์) ถ้ามีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเชียส หรือมีไข้ ไอ จาม ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์
2) จัดหาหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย สำหรับพนักงานทุกคนอย่างเพียงพอ โดยให้พนักงานทุกคนสวมเสื้อคลุม ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และสวม Face shield ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน
3) กำหนดให้พนักงานทุกคนล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ ก่อนและหลังให้บริการลูกค้าคนต่อไป
และ 4) ห้ามให้บริการอื่นๆ ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับใบหน้าของลูกค้า หรือถ้าใช้ใบมีดโกน ให้เปลี่ยนใบมีดกับลูกค้าทุกคน ห้ามใช้ซ้ำ
สำหรับการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในร้านนั้น ควรจัดให้มีจุดล้างมือ หรือเจลแอลกอฮอล์ สำหรับบริการลูกค้าที่บริเวณประตูทางเข้า หรือเคาน์เตอร์รับชำะเงินทุกจุดอย่างเพียงพอ รวมทั้งมีระบบระบายอากาศที่ดี และทำความสะอาดในบริเวณพื้นที่ที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ เช่น เก้าอี้ตัดผม เตียงสระผม ที่นั่งรอรับบริการตัวยน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างน้อยทุก ๆ 2 ชั่วโมง ไม่ใช้ของใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าขนหนู ผ้าคลุมตัว
ส่วนอุปกรณ์ในการเสริมสวย เช่น หวี แปรง กรรไกรต้องทำความสะอาดทุกครั้งก่อน-หลังให้บริการกับลูกค้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เช่น แอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งจัดเก้าอี้บริการลูกค้าไม่ให้แออัด ให้มีระยะห่างกัน 1.5 – 2 เมตร
ส่วนผู้มารับบริการนั้น ควรนัดคิวการตัดผมเสริมสวย ล่วงหน้าเพื่อลดเวลาในการนั่งรอและอยู่ในสถานที่ร่วมกัน และเมื่อเข้ามาในร้านเสริมสวยต้องได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย มีการล้างมือหรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งเมื่อเข้ามาในร้านและหลังชำระเงิน
“กรมอนามัยขอความร่วมมือทุกสถานประกอบการร้านตัดผม เสริมสวย ถือปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมอนามัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทุกคน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว