หลายๆ คนชื่นชอบการเปลี่ยนลุคตัวเองด้วยการย้อมผม เพียงแค่ผมเปลี่ยนสีไปก็เหมือนได้กลายเป็นอีกคน การแต่งตัวแต่งหน้าก็จะสนุกขึ้นไปด้วย ซึ่งถ้าใครที่อยากทำสีเจ็บๆ จี๊ดๆ ล่ะก็ต้องผ่านการ “กัดสีผม” ซะก่อน ไม่งั้นสีผมจะไม่ติดเท่าที่ควร
แต่การไปทำที่ร้านนั้นก็มีราคาแพงเอามากๆ (หลายร้อยไปจนถึงหลักหลายพันบาท) หลายๆ คนเลยเลือกที่จะซื้อน้ำยากัดและย้อมสีผมมาทำเองที่บ้าน ซึ่งก็มีหลากหลายยี่ห้อและราคาให้เลือกใช้
สาวน้อย Josie Laro วัย 19 ปี จากรัฐนอร์ธดาโกตา สหรัฐอเมริกาเองก็เบื่อผมสีน้ำตาลเข้มของตัวเองเต็มแก่ เธออยากจะลองย้อมผมเป็นสีบลอนด์เฉี่ยวๆ เปรี้ยวๆ ดูบ้าง ซึ่ง Laro เคยกัดสีผมมาแล้ว 2 ครั้งโดยไม่มีปัญหาอะไร เธอจึงซื้อน้ำยามาทำเองโดยไม่คิดอะไรมาก
แต่ในครั้งนี้ได้เกิดความผิดพลาดขึ้น เมื่อจู่ๆ Laro รู้สึกปวดแสบปวดร้อนบริเวณหนังศีรษะขึ้นมาหลังผ่านไป 20 นาที พอเธอเอาหมวกคลุมผมออกก็ได้กลิ่นไหม้ออกมาจากผมของตนเอง เลยรีบเข้าห้องน้ำไปล้างน้ำยาออกจากผม
ในระหว่างที่เปิดน้ำล้างและเอานิ้วสางผมไปด้วยนั้น Laro อ้างว่าเส้นผมของเธอเปื่อยยุ่ยและหลุดติดมือออกมาเป็นกระจุกร่วงไปกองบนพื้นห้องน้ำ
เพียงไม่กี่นาทีผมยาวสลวยของเธอก็ค่อยๆ ขาดหลุดจนกลายเป็นผมสั้น หนังศีรษะไหม้ แถมสีผมยังผิดเพี้ยนไม่สม่ำเสมอด้วย
ผมของ Laro ที่เปื่อยยุ่ย
ตอนผมแห้งแล้ว สีไม่สม่ำเสมอ แถมปลายผมเสียหมดเลย
โดยตัวเธอบอกว่า ที่ผ่านมาเธอก็ใช้น้ำยายี่ห้อนี้มาโดยตลอด และมันไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย เธอจึงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับตัวเอง เธอรู้สึกแย่มากๆ จึงไปตั้งกระทู้ระบายบนกลุ่มเฟซบุ๊กที่เอาไว้พูดคุยเรื่องความงาม
หลังจากแชร์เรื่องราวของตัวเองให้คนอื่นได้อ่านก็มีช่างทำผมคนหนึ่งอาสาช่วยแต่งผมที่ถูกทำลายให้เธอใหม่ ทั้งใช้เซรั่มและโปรตีนช่วยบำรุง โดยใช้เวลาไปถึง 5 ชั่วโมงด้วยกัน
หลังได้รับการบำรุงและตกแต่งใหม่ ผมก็กลับมาดูดีแล้ว
Laro รู้สึกขอบคุณช่างทำผมผู้ใจดีมากๆ เพราะทีแรกเธอคิดว่าอาจจะต้องโกนผมของตัวเองออกซะแล้ว นอกจากนี้เธอยังบอกว่า “ฉันจะไม่มีวันกัดหรือย้อมสีเองที่บ้านอีกแล้ว มันเป็นบทเรียนที่จะจำไปจนตายเลย”
สุดท้ายเธอก็ยังไม่ทราบว่าเพราะอะไรผมเธอจึงถูกสารเคมีทำร้ายอย่างรุนแรงขนาดนี้ อาจเป็นเพราะน้ำยาบังเอิญมีปัญหาเฉพาะกล่องนั้นก็ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นบทเรียนและอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆ ที่ชอบเปลี่ยนสีผมระมัดระวังในการเลือกซื้อและใช้งานสินค้าเหล่านี้ หากไม่มั่นใจล่ะก็ยอมเสียเงินให้ร้านที่เชื่อถือได้ทำดีกว่าจ้า
ที่มา Mirror/ Catdumb