นับเป็นโอกาสสุดพิเศษที่ HW+ ได้พูดคุยอย่างใกล้ชิดกับ Davines International Ambassador ศิลปินและผู้ฝึกอบรมคนดัง อย่างคุณ Candice Mckay บุคคลที่เป็นศูนย์กลางแห่ง Wyatt Hairdressing เธอเป็น Hairstylist ที่มีพรสวรรค์ ใส่ใจในรายละเอียด และเป็นศิลปินที่โดดเด่นในฐานะศิลปินด้วยกัน ครั้งนี้เธอมาเป็นผู้ถ่ายทอดความงดงามของศิลปะบนเรือนผม คอลเล็คชั่น Scene รวมถึงคอลเล็คชั่นส่วนตัวของเธอ Brave ในแง่มุมที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน
กว่าจะมาเป็น Hairstylist?
Candice Mckay : เป็น Hairstylist มาเป็นเวลา 22 ปีแล้วค่ะ ที่ South Africa จะมีเฉพาะ Professional Hairstylist โดยจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเวลา 3 ปี และหลังจาก 3 ปี เราก็จะทำ Trade Test ซึ่งคือการปฏิบัติจริงเหมือนเราเป็น Hairstylist เลย และที่ South Africa การจะเป็นเจ้าของร้านเสริมสวย ครู หรือช่างผมได้นั้น ทุกคนจะต้องมี Trade Certification เป็นการรับรองค่ะ
เส้นทางในวงการ?
Candice Mckay : เคยผ่านการเข้าแข่งขันมามากค่ะ ทำให้ได้มีโอกาสโชว์คอลเล็คชั่นของตัวเองในงานประกวดต่างๆ ครั้งหนึ่งที่เคยชนะการประกวดในงาน Davines World Hair Tour 2004 นั่นทำให้กลายมาเป็น Hairstylist ของ Davines และล่าสุดก็ได้รางวัลจากการประกวดที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ซึ่งเข้ารอบสุดท้ายและยังได้โชว์คอลเล็คชั่นต่อหน้า Hairstylist ทั่วโลกกว่า 5,000 คน สำหรับตัวเอง Davines จึงเหมือนเป็นใบเบิกทาง ตลอดเวลาที่เข้าประกวดในเวทีต่างๆ ก็ไม่เคยคิดว่าแข่งขันกับคนอื่น แต่คิดว่ากำลังแข่งกับตัวเอง และมักจะคอยทำสิ่งที่ท้าทายตัวเองอยู่เสมอ
จุดเด่นของคอลเล็คชั่น Scene?
Candice Mckay : ความรู้สึกกลัว ความภาคภูมิใจและความสำเร็จ ที่สะท้อนตัวตนของผู้หญิง โดยเรานำเสนอความรู้สึกเหล่านั้นผ่านสีที่เกิดจากการรวมตัวกันของแสงและรูปทรงเรขาคณิต จนสะท้อนออกมาเป็นภาพสามมิติ ซึ่งก็คือ Dark Halo, Pureness, Candy Colour, Cloudy Infusion และ Tough and Chic ในคอลเล็คชั่นนี้นั่นเอง
ทรงผมที่ชอบที่สุดในคอลเล็คชั่น Scene?
Candice Mckay : ทรง Tough and Chic ที่ตัดสั้นเหมือนทอมบอย มีความเป็น Unisex ย้อมสีบลอนด์อ่อน มีส่วนที่สั้น และยาว รู้สึกว่าดูมีสไตล์มาก
นอกจากคอลเล็คชั่น Scene แล้วยังมีคอลเล็คชั่นส่วนตัวด้วย?
Candice Mckay : คอลเล็คชั่นล่าสุดชื่อว่า Brave เป็นผลงานส่วนตัว สื่อถึงการค้นพบตัวตนของผู้หญิงที่ได้ค้นพบโลกและสร้างวัฒนธรรมขึ้นมาใหม่ โดยเสื้อผ้าที่ใช้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชนพื้นเมืองต่างๆ ทั่วโลก เช่น ชาวเอสกิโม ชาวญี่ปุ่น หรือแม้แต่ชาวกะเหรี่ยงของไทย รวมถึงมีการใช้เสื้อผ้าลายแผนที่โลกด้วยค่ะ
เทคนิคที่ใช้ในคอลเล็คชั่นนี้?
Candice Mckay : ใช้เทคนิค Texturizing ที่สะสมและพัฒนามาตลอด 20 ปี ในการทำสีผมให้ Shine และผสมสีที่จะทำให้เกิดการสะท้อนแสง เวลาฟอกสีผม ก็จะมีเทคนิคพิเศษอีก โดยใช้สีธรรมชาติก่อนแล้วค่อยๆ แต้มสีแฟชั่นลงไปค่ะ คอลเล็คชั่นนี้เราเลือกโมเดลชาวอังกฤษที่มีสีผิวขาวซีด จึงใช้เทคนิคทำไฮไลท์ผมให้สว่าง ช่วยให้หน้าของพวกเธอไม่ซีด และทำสีผมให้เปล่งประกายขึ้นด้วยการไล่สีและเพิ่มสีสันต่างๆ ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ Davines Texturizing Powder เพื่อสร้างให้ผมมี Texture และอยู่ทรงมากยิ่งขึ้น
ความท้าทายที่ค้นพบ?
Candice Mckay : สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ก็พยายามทำให้มีความเป็น International มากขึ้น และได้ร่วมงานกับช่างภาพที่ชื่อ John Rawson เราไปถ่ายภาพกันที่ลอนดอน ได้ร่วมงานกับนางแบบที่มีความเป็นมืออาชีพและมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ซึ่งพวกเธอมีความเข้มงวดมาก ทำให้ไม่สามารถครีเอททรงผมได้มากเท่าที่ควร
การทำคอลเล็คชั่นนี้ทำให้ฉันต้องลดตัวตนของตัวเองลงบ้าง เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด แต่ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้มีอะไรยาก ฉันแค่ทำให้ดีที่สุด และสนุกกับมันก็เท่านั้น
ทรงไหนในคอลเล็คชั่น Brave ที่เหมาะกับตัวเอง?
Candice Mckay : อยากทำผมทรงบลอนด์ยาวที่ดูเซ็กซี่และมีความเป็นผู้หญิงซ่อนอยู่ค่ะ ถ้าสังเกตดีๆ ทรงนี้จะมีบางส่วนที่เป็นสีดำและส่วนที่เป็นสี Ash มีส่วนที่สว่างและมืด เป็นทรงที่ดูมีมิติมากๆ ค่ะ
สิ่งที่ชอบมากที่สุดในการทำงานร่วมกับ Davines
Candice Mckay : สองสิ่งที่ชอบที่สุดใน Davines คือ ข้อแรก ชอบความงามแบบยั่งยืนของ Davines ส่วนอีกข้อคือการได้รู้จักกับ Davines เหมือนการได้เจอคนแบบเดียวกับตัวเอง เพราะเมื่อก่อนคิดว่าตัวเองเป็น Hairstylist ที่แปลก ไม่เหมือนใคร แต่พอมาเจอคนของ Davines ก็คิดว่านี่คือกลุ่มคนที่เราอยากทำงานด้วย
ผลิตภัณฑ์ของ Davines ที่อยากแนะนำ?
Candice Mckay : ส่วนตัวชอบ Primer ในกลุ่มของ Your Hair Assistant และมักจะพกติดตัวตลอดเวลา เพราะมันสามารถลดการชี้ฟู และจับลอนได้ เวลาผมมีความชื้นก็จะเกิดการชี้ฟูได้ง่าย ก็สามารถนำมาใช้ได้ทันทีค่ะ
เทรนด์แฟชั่นทรงผมที่ฮอตที่สุด?
Candice Mckay : ทรงผมสั้นด้านบน และยาวด้านล่าง ที่เรียกว่า Mullet เป็นทรงที่กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก
ฝากถึง Hairstylist ไทย
Candice Mckay : ตั้งใจหาความรู้อยู่เสมอ ฝึกฝนไม่หยุด และไปต่างประเทศ เพื่อที่จะได้เรียนรู้ เจอคนที่หลากหลาย ทำให้ตัวเองเก่งขึ้น ทั้งหมดคือสิ่งสำคัญของการเป็น Hairstylist ค่ะ
การพูดคุยในครั้งนี้ไม่เพียงบอกเล่าถึงความงดงามของคอลเล็คชั่น Scene และ Brave เท่านั้น แต่เรายังได้เรียนรู้มุมมองทางด้านศิลปะที่ละเอียดอ่อน รวมไปถึงการฝึกฝนและพัฒนาตัวเองไม่ยอมหยุด ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ Candice Mckay ก้าวขึ้นสู่ Hairsylist ระดับโลก ทาง HW+ ต้องขอขอบคุณ Davines เป็นอย่างยิ่ง ที่มอบโอกาสดีๆ แบบนี้แก่ Hairstylist ไทย