การประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นนับว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่การรักษาธุรกิจไว้ให้ยั่งยืน พร้อมส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นก็ยิ่งถือเป็นความท้าทายอย่างใหญ่หลวงของการดำเนินธุรกิจให้แตกแขนงและเป็นที่ประสบความสำเร็จต่อยอดไปยังในระดับต่างประเทศด้วยแล้วถือว่า “ท้าทาย” มากๆ เช่นเดียวกับแบรนด์ LOLANE ซึ่งบริหารธุรกิจโดยคุณต้น-วิบูลย์ สมบูรณ์ศักดิกุล ผู้ดำรงตำแหน่ง C.E.O. บริษัทเอส.ซี. เสรีชัยบิวตี้ จำกัด ในยุค GEN.2 ที่ไม่ใช่แค่เพียงรักษาแต่ยังต่อยอดความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ให้ก้าวสู่ระดับสากลได้อย่างดีเยี่ยมแต่คุณต้นยังมีวิสัยทัศน์และมุมมองอย่างเฉียบคมที่จะพา LOLANE ก้าวสู่ต่อไปอีกระดับจะเป็นอย่างไรนั้น Hairworld Plus เตรียมคำตอบไว้แล้ว…
HW: จุดกำเนิดของผลิตภัณฑ์ “LOLANE” และผลิตภัณฑ์ครองใจที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง…
คุณต้น: ผลิตภัณฑ์โลแลนเองได้ถือกำเนิดจากแนวคิดของคุณพ่อและคุณแม่ของผม คือ คุณเสรี และคุณญาณี สมบูรณ์ศักดิกุล ในช่วงนั้นครอบครัวได้มีธุรกิจหลักคือห้างเสรีชัยบิวตี้ที่เป็นศูนย์รวมสินค้าความงาม โดยท่านได้อาศัยประสบการณ์การจากการพบเจอลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้าน ทำให้ทราบถึงความต้องการของลูกค้า ประกอบกับวิสัยทัศน์ด้านธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่งของท่านทั้งสองจึงเป็นที่มาของการสร้างแบรนด์สินค้าขึ้นมาเองภายใต้ชื่อ โลแลน และขยายธุรกิจไปสู่ภาคอุตสาหกรรมเต็มตัวในปี 2530 ในช่วงแรกท่านได้ตัดสินใจซื้อบ้านในย่านอ่อนนุช เพื่อทำเป็นโรงงาน SC Artistry เล็กๆ ผลิตสินค้าโลแลน เริ่มผลิตแชมพูและครีมนวดเอง ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก เนื่องด้วยคุณภาพที่เทียบเท่าแบรนด์ต่างประเทศแต่ราคาถูกกว่า และได้นำนวัตกรรมใหม่เข้ามาใช้เป็นแบรนด์แรกในสมัยนั้น โลแลนจึงสามารตีตลาดได้ประสบความสำเร็จ และได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์มาเรื่อย ๆ เป็นผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม ซึ่งเราพัฒนามูสและเป็นผู้บุกเบิกตลาดมูสในไทยเป็นเจ้าแรก ๆ ต่อมาเมื่อกิจการเริ่มเติบโตขึ้น จึงได้ขยายสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่สมุทรปราการ คราวนี้เรามีทีม R&D และเริ่มวางระบบการพัฒนาสินค้ามากขึ้น รวมถึงช่วงนั้นทางฝ่ายขายเองก็มีคุณโฆษิต หาญฤทธิรงค์ เข้ามาบริหารฝ่ายขายและฝ่ายขายก็เริ่มเป็นระบบระเบียบมากขึ้นนับแต่ตอนนั้น อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สามารถตีตลาดและเป็นที่จดจำของลูกค้าได้คือ ทรีทเม้นท์โลแลนกระปุกเขียว เราเป็นแบรนด์แรกที่ใช้ Concept หมักเร็วนุ่มนาน ใช้แทนครีมนวดผมได้ และออกหนังโฆษณาชุด หมักจนแก่ ซึ่งสร้างกระแสให้โลแลนเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นไปอีก
HW: อะไรคือกลยุทธ์ในการตอกย้ำความสำเร็จและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ครองใจในกลุ่มลูกค้าอย่างยาวนาน
คุณต้น: ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยทิ้งคุณภาพ เราภูมิใจที่เวลาลูกค้าใช้แล้วกลับมาซื้อซ้ำ และต้องบอกว่าเราเป็นเจ้าแรกใช้กลยุทธ์การสร้างการทดลองใช้ในรูปแบบการให้บริการ Head Zone ที่ห้างเมโทรในสมัยเมื่อเกือบ 30 ปีก่อนครับ คือซื้อแล้วมีบริการทำผมตรงนั้นเลย โดยเรามีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและให้บริการทำผม ทำให้เกิดการทดลองใช้ ส่งผลให้ Market Share และ Brand Awareness เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการทำกลยุทธ์นี้ เราเชื่อมั่นว่าสินค้าทุกตัวของเรามีคุณภาพและอยู่ในระดับที่ทุกๆ คนสามารถเข้าถึงและจับต้องได้ และจากประสบการณ์ที่เราผลิตสินค้าเพื่อคนไทยกว่า 30 ปี ทำให้ผมมั่นใจว่า “เรารู้ใจผมคนไทยและคนเอเชียมากที่สุด”
HW: นวัตกรรมใหม่ๆ ของสินค้าโลแลน?
คุณต้น: สินค้าเด่นในงาน 30 ปีโลแลน คือ โลแลน อินเทนซ์ แคร์ เคราติน รีแพร์ มาส์ก เรามีเทคโนโลยีสุดพิเศษ เคราติน แมทชิ่ง อินเทลลิเจนท์ ซิสเต็ม ย่อโมเลกุลเคราตินเป็น 3 ขนาดคือ เล็ก กลาง ใหญ่ สามารถเข้าสู่ลึกเส้นผมในแต่ละชั้น ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นใน ได้อย่างเต็มที่เพื่อให้ผมสวยแข็งแรงจากภายในด้วยเคราตินโปรตีน ความแตกต่างคือหากเป็นสินค้าแบรนด์อื่นที่มีคำว่าเคราติน ผมเชื่อว่าเคราตินของเขายังไม่ได้เน้นถึง 3 ระดับแบบของโลแลน เพราะจะทำให้รู้สึกแค่ว่าเคราตินเคลือบแค่เกล็ดผมหรือผมชั้นนอกเท่านั้น แต่นวัตกรรมนี้ในสินค้า โลแลน อินเทนซ์ แคร์ เคราติน รีแพร์ มาส์ก มอบโมเลกุลของเคราตินโปรตีนถึง 3 ระดับ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผมคุณได้รับการบำรุงเต็มที่ถึงผมชั้นใน และเราได้ทำการทดลองในกลุ่มผู้หญิงถึง 400 คน พบว่า ผมแข็งแรงขึ้น 83% ในครั้งแรกที่ใช้
HW: การตลาดต่างประเทศ: จุดเริ่มต้นของการนำผลิตภัณฑ์สู่ต่างประเทศมีกี่ประเทศ แถบไหนอย่างไร ประเทศไหนมี potentials ในการสร้างตลาดในอนาคต?
คุณต้น: ตอนนี้เรามีลูกค้าที่เป็นต่างประเทศทั้งหมด 34 ประเทศทั่วโลก ส่วนมากคือกลุ่ม Asian โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านถือว่ามี potentials ในการสร้างตลาดในอนาคตสูง เช่น กัมพูชา เมียนมาร์ หรือลาว เพราะประเทศเพื่อนบ้านเขาจะมองประเทศไทยเป็นหลัก คือดูเทรนด์สินค้าในประเทศเราว่าตอนนี้อะไรแรงไม่แรง ทำให้เกิดการยอมรับไวกว่าประเทศอื่นๆ และยิ่งหากเรามี Hair Show หรือมี Workshop ที่เราร่วมทำกับประเทศเหล่านี้ ก็ได้เสียงตอบรับดีมาก
HW: อะไรคือหัวใจหลักของ “โลแลน” ที่ก้าวมาถึง 3 ทศวรรษได้?
คุณต้น: อย่างแรกเลยคือเรื่องของ “คุณภาพ” ห้ามลดคุณภาพเด็ดขาด เรามาถึงจุดนี้ได้เพราะคำๆ นี้ บวกกับทุกสินค้าเราพยายามสอดแทรกคิดค้นนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอด อันดับสองคือ “การสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งขึ้น” ให้คนจดจำเรามากยิ่งขึ้น และเวลานึกถึง “โลแลน” ก็รู้ว่านี่คือแบรนด์ที่มี “คุณภาพ” นี่คือการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ไทยที่ดี ให้ลูกค้าเชื่อว่าแบรนด์ไทยอย่างเรามีคุณภาพและความน่าเชื่อถือไม่ต่างจากแบรนด์นอกเลย ซึ่งก็ตรงกับ Brand Key ของเรา Empowering Your Liveliness คือเราเป็นลมใต้ปีกที่เคียงข้างกับทุกคน เป็นพลังที่ช่วยให้ทุกคนดูดี และรู้สึกมีความสุขเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์
HW: อะไรคือความสำเร็จมากมายที่เป็นสิ่งภาคภูมิใจสูงสุดของแบรนด์?
คุณต้น: ผมมองว่าไม่ใช่ยอดขายหรือรางวัล แต่เป็นความรู้สึกภูมิใจเวลามีคนมาบอกว่าสินค้าเราใช้แล้วดี เช่น ผมไปเจอกลุ่มนักธุรกิจที่ใช้ โลแลน เนเจอร์ โค้ด แล้วชื่นชมสินค้าเราว่าใช้แล้วดีมาก เราก็รู้สึกดีใจมาก แม้กระทั่งเวลาไปตรวจตลาดที่ต่างจังหวัดมีแม่ค้าหรือคนทั่วไปบอกว่าสินค้าเราใช้แล้วเห็นผล เช่น โลแลน เนเจอร์ โค้ด ใช้ดีมาก หรืออินเทนซ์ แคร์ เคราติน รีแพร์ มาส์ก ที่ 9 คนจาก 10 คนให้ผลตอบรับที่ดี เราก็รู้สึกปลิ้มใจมาก เพราะนี่แสดงว่าคุณภาพของสินค้าเราเข้าถึงคนทุกระดับ ทุกๆ คนชื่นชอบในคุณภาพของสินค้าเรา ผมมองว่าจุดนี้แหล่ะคือความภูมิใจอันสูงสุดของแบรนด์ครับ
HW: อะไรคือเป้าหมายในอนาคตของแบรนด์?
คุณต้น: อยากให้โลแลนติดท็อปของแบรนด์ในเอเชีย คนต่างชาติรู้จักเรามากขึ้น ตอนนี้เราก้าวข้ามผ่านการเป็น local brand แล้วและกำลังเขยิบเป็น regional brand คิดว่าภายใน 5 ปีเราต้องเป็น regional brand เต็มตัว ให้ลูกค้าต่างชาติรู้จักโลแลน และสินค้าประเภทสี บำรุง เปลี่ยนโครงสร้างผม มากยิ่งขึ้น
นี่เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาเท่านั้นยังมีความรู้ในเรื่องของการทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จ การเป็นนักบริหารในสไตล์ของคุณต้นที่ยังต้องติดตามกันต่อไปใน [Part 2] กว่าที่จะก้าวมาสู่แถวหน้าในระยะเวลากว่า 3 ทษวรรษกระดาษเพียง 2 หน้าไม่เพียงพอกับ “คัมภีร์” ความสำเร็จของ LOLANE หรอกจริงไหม!? บอกได้คำเดียวว่านักธุรกิจรุ่นใหม่ต้องติดตามให้ได้!!