หญิงไทยสมัยโบราณก็มีทรงผมสวยๆ อยู่หลากหลายแบบ ไม่แพ้สาวยุค 2022 เลยทีเดียว และถ้าใครดูละครย้อนยุคที่เล่าเรื่องราวสมัยรัชกาลที่ 5 ต้องเคยเห็นทรงผมสั้นที่เรียกว่าเป็นทรงผมยอดนิยมของหญิงไทย ก็คือ ทรงดอกกระทุ่ม แต่ชื่อนี้จะมีที่มายังไง? ดอกกระทุ่มคืออะไร? ทำไมมาเกี่ยวกับทรงผมได้ มาดูที่มากัน
ผมทรงดอกกระทุ่ม ถือกำเนิดในช่วงกลางถึงปลายสมัยรัชกาลที่ 5 นับว่าเป็นแฟชั่นทรงผมที่งดงามในยุคนั้น ได้แบบอย่างมาจาก ดอกกระทุ่ม ที่มีลักษณะกลม มีสีเหลืองอ่อนอยู่ด้านใน ด้านนอกปกคลุมด้วยเกสรสีขาวเส้นเล็กๆ และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
โดยเริ่มต้นจากหญิงสาวชาววังที่แต่เดิมนิยมไว้ผมยาวประบ่า แล้วค่อยๆ หันมานิยมทรงผมสั้น โดยตัดผมสั้นเกรียนทั้งศีรษะ ปล่อยให้ยาวชี้ขึ้นเล็กน้อย ลักษณะคล้ายกับดอกกระทุ่ม บางคนอาจจะไว้ให้ยาวอีกนิดแล้วหวีเสยขึ้นไป ใช้น้ำมันแต่งผมให้ตั้งสูงได้รูป ซึ่งก็เรียกว่าเป็นทรงดอกกระทุ่มได้เช่นกัน
สาเหตุที่หญิงไทยโบราณทั้งในวังและหญิงชาวบ้านนิยมตัดผมทรงดอกกระทุ่ม เพราะเชื่อว่าเป็นทรงผมที่ช่วยเสริมสิริมงคล โดยมาจากความเชื่อของชาวอินเดียที่เผยแพร่มาสู่ชาวสยามในช่วงนั้นว่า ‘กระทุ่มคือต้นไม้อมตะ เป็นสิ่งศักดิ์และของมงคล’ ตามตำนานโบราณที่ว่า ในคราวกวนเกษียรสมุทรบนสรวงสวรรค์ พญาครุฑซึ่งได้ดื่มน้ำอมฤตนั้นบินมาเกาะที่กิ่งของต้นกระทุ่ม และน้ำอมฤตที่ติดอยู่ตรงจงอยปากได้หยดลงมาบนต้นไม้ จึงส่งผลให้ต้นกระทุ่มกลายเป็นต้นไม้อมตะไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าดอกกระทุ่มเป็นสัญลักษณ์ประจำองค์พระกฤษณะ ผู้ที่เคารพบูชาพระกฤษณะในอินเดีย มักนิยมใช้ดอกไม้นี้บูชาถวายเมื่อถึงช่วงเทศกาลต่างๆ
เรียกได้ว่าทรงผมหญิงไทยโบราณมีวิวัฒนาการน่าสนใจ ผสมผสานทั้งความเชื่อและความงาม กลายเป็นแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
.
#ทรงผมสมัยรัชกาลที่5 #ทรงผมหญิงไทยสมัยโบราณ #ทรงผมโบราณ #ผมทรงดอกกระทุ่ม #ทรงผมดอกกระทุ่ม #ที่มาทรงผม #ทรงผมผู้หญิง #HairworldPlus
.
ขอบคุณข้อมูลจาก https://rakdok.com/ , https://lifestyle.campus-star.com/