แฮร์สไตลิสต์ชื่อดังหลายรายที่ยืนหนึ่งอยู่ในวงการทำผมขณะนี้ แน่นอนว่าส่วนใหญ่พวกเขาก้าวเข้ามาเพราะมีความสนใจและหลงใหลในการทำผม แต่ก็มีอีกหลายคนที่เริ่มต้นอาชีพนี้แบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด เช่นเดียวกับ “พู่กัน-ศุภชิต พ้นเคราะห์” แห่ง Tensai Salon จากเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆ ที่เริ่มต้นก้าวแรกในวงการทำผมเพราะเหตุบังเอิญ แต่ด้วยความกล้าทำให้เขาก้าวต่อไป พัฒนาจากช่างสระผมสู่การเป็นเจ้าของร้าน นอกจากนี้ เขายังเป็นแฮร์สไตลิสต์รุ่นใหม่ที่มีฝีมือด้านการตัดผม การทำสีและดัดผมดิจิตอลแบบเกาหลีที่มีสไตล์โดดเด่น ล้ำสมัย และเมื่อบวกกับแฟชั่นการแต่งตัวเท่ๆ ชิคๆ ในแบบ Korean Style ทำให้บรรดาเด็กมหาวิทยาลัยต่างพากันกด Like และบอกต่อความถูกใจนี้ จนทำให้เขากลายเป็นช่างผมชื่อดังในโลกโซเชียล และ Hairworld Plus+ เองก็ไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเขาให้มากยิ่งขึ้น
ก้าวแรก…จุดเริ่มต้นในวงการทำผม
เรียกว่าเป็นความบังเอิญมากๆ ครับ ตอนนั้นแม่ผมซึ่งทำเกี่ยวกับการตรวจวัดสายตาและขายแว่นตา ได้ไปออกบูธที่บริษัทชลาชล จำกัด ผมก็ไปช่วยแม่ขายแว่นตาด้วย และบังเอิญได้พบกับ ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ท่านก็ชวนให้มาทำงานที่ร้านชลาชลของท่าน ซึ่งตอนแรกผมก็จะปฏิเสธนะครับ แต่สุดท้ายก็ตอบตกลงไป แล้วก็เริ่มทำงานเป็นพนักงานต้อนรับก่อนครับ แต่ลองทำแล้วรู้สึกว่าไม่ชอบเลยตัดสินใจขอมาเป็นช่างสระผม
ก้าวที่สอง…เริ่มเรียนรู้ และพัฒนาตัวเอง
หลังจากที่เป็นช่างสระผมมาเกือบ 3 ปี ก็รู้สึกว่าเราอยากทำงานด้านนี้ต่อ เลยตัดสินใจขอแม่ไปเรียนทำผมเพิ่มเติมที่ “ชลาชล อะคาเดมี่” ระหว่างนั้นก็เรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย คือ เรียน 3 วัน ทำงาน 4 วัน ไม่มีวันหยุดเลย พอเรียนจบก็เริ่มก้าวมาเป็นช่างซอยผม และได้งานที่ร้านทำผมแห่งหนึ่งแถวๆ รังสิตครับ
ก้าวต่อไป…สู่การเป็นเจ้าของร้านทำผม
ช่วงที่ผมทำงานอยู่ร้านทำผมที่รังสิตจะมีเด็กมหาวิทยาลัยและกลุ่มวัยรุ่นมาทำผมค่อนข้างเยอะ ผมก็เริ่มมองเห็นโอกาส และตัดสินใจลองเปิดร้านของตัวเองดูเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักศึกษา เพราะเราเองก็มีคอนเน็คชั่นที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นอยู่ค่อนข้างเยอะ
การเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง และมองหาสิ่งใหม่ๆ ให้ลูกค้า
ถ้าช่วงไหนมีเวลาว่างผมก็จะไปเรียนหรืออบรมเรื่องการทำผมและเทคนิคต่างๆ เพิ่มเติมครับ เพราะจะได้นำความรู้กลับมาใช้ทำผมให้ลูกค้าที่ร้านได้ด้วย ล่าสุดก็ได้ไปเรียนคอร์สสั้นๆ กับทาง JUNO Academy ที่เกาหลี เกี่ยวกับการดัดผมแบบดิจิตอลด้วยเทคนิคพิเศษซึ่งที่เมืองไทยยังไม่ค่อยมีร้านทำผมใช้เทคนิคแบบนี้กันมากนัก แต่ที่เกาหลีกำลังนิยม เพราะลอนผมที่ได้จะนุ่มสลวย ดูเป็นธรรมชาติ เซ็ตง่าย และผมไม่แห้งเสีย คิดว่าลูกค้าชาวไทยน่าจะชอบกันนะครับ
จุดเด่นของร้าน Tensai Salon
ร้าน Tensai จะมีความโดดเด่นเรื่องการตอบโจทย์และความต้องการของวัยรุ่นไทย ซึ่งส่วนใหญ่เน้นแฟชั่นและการดูแลทรงผมได้ด้วยตัวเองหลังจากที่ทำผมจากร้านไปแล้ว แบบว่าแค่เป่าก็เป็นทรง นอกจากนี้ ร้านเรายังเด่นเรื่องการทำสี จะเป็นสีที่ไม่เหมือนใคร เน้นสไตล์เกาหลี รวมทั้งมีเทคนิคการยืดผมวอลลุ่มแบบเกาหลีด้วย ที่เน้นความเป็นธรรมชาติและดูแลง่าย ซึ่งลูกค้าที่มาทำแล้วติดใจมากๆ ครับ นอกจากนี้ ราคายังไม่แพงด้วย ทำให้มีวัยรุ่นและเด็กที่เรียนมหาวิทยาลัยมาทำผมกันเยอะมาก พอมาทำแล้วเขาชอบก็เลยบอกต่อๆ กันไป
อุปสรรคในการทำงาน และกำลังใจที่มี
สำหรับผมแล้วอุปสรรคในการทำงานไม่มีเลย เพราะผมมองว่าลูกค้าทุกคนคือเพื่อน คือพี่ คือน้อง และทุกคนนี่แหละคือกำลังใจของผมด้วย ผมมองว่าทุกอย่างที่ผ่านมาคือการเรียนรู้มากกว่าเป็นอุปสรรค
สไตล์การแต่งตัวในแบบ “พู่กัน”
ส่วนใหญ่ผมจะแต่งแฟชั่นสไตล์เกาหลี แบบ Seoul Street Style ประมาณนั้นครับ คือเเค่เสื้อยืดก็เท่ได้ ที่สำคัญเน้นราคาถูก ใส่ง่าย ใส่สบาย และเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดครับ
รอยสัก…สื่อความหมายและตัวตน
ผมเป็นคนชอบสักครับ มีรอยสักอยู่หลายที่มากๆ ทั้งที่แขน ที่หลัง และที่ลำตัว ทุกลายก็มีความหมายหมดเลย สำหรับรอยสักที่ชอบก็มีที่นิ้ว สักเป็นคำว่า Love Mama เพราะผมเป็นคนที่รักแม่มากๆ รอยสักรูปพู่กันกับจานสีที่แขน เพราะเป็นชื่อเล่นของผม แล้วก็รอยสักรูปลูกศรและคันธนู หมายถึงการมีจุดมุ่งหมายในชีวิต
ของสะสม
ชอบสะสมรองเท้าครับ ผมจะชอบใส่ยี่ห้อ Dr.Martens, Adidas, Nike, Fera เพราะปกติแล้วผมเป็นคนชอบแต่งตัว ชอบเรื่องแฟชั่น เลยชอบซื้อชอบสะสมรองเท้าเพื่อเอามามิกซ์แอนด์แมทช์เวลาแต่งตัว ผมรักรองเท้าทุกคู่ เเต่ละคู่ก็จะมีเรื่องราวของมัน และรองเท้าเป็นไอเท็มที่ผมใส่เเล้วสร้างความเป็นตัวเองได้มากที่สุด
อะไรที่ทำให้เริ่มสนใจเรื่องแฟชั่น
ผมเริ่มสนใจเเฟชั่นเพราะเห็นเพื่อนๆ ชอบแต่งตัวกันเท่ๆ ครับ ผมก็เลยเริ่มจากการดูสไตล์การแต่งตัวของเพื่อนๆ จากนั้นก็เริ่มดูแฟชั่นของศิลปินเกาหลีบ้าง ยุโรปบ้าง แต่ตอนนี้ผมก็มิกซ์แอนด์แมทช์ตามสไตล์ของตัวเอง แต่ก็จะดูสไตล์ต่างๆ จากนักร้องหรือนายแบบเกาหลีเพิ่มเติมบ้าง เพื่อเป็นการอัพเดตเทรนด์ใหม่ๆ ครับ
มีใครที่เป็นไอดอลในใจ
โทนี่ รากแก่น (นักแสดงและช่างทำผม) ผมชอบไลฟ์สไตล์ของพี่โทนี่ รวมถึงเรื่องการทำงานของเขาด้วยครับ
มุมมองที่มีต่อแฟชั่นในปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้แฟชั่นเปลี่ยนไปจากสมัยก่อนค่อนข้างมากนะครับ จะเน้นอะไรที่ง่ายๆ แบบเรียบหรูดูแพง บ่งบอกความเป็นตัวเองสูง และคนสมัยนี้ก็กล้าที่จะทำสิ่งที่แตกต่างจากเมื่อก่อนครับ
ช่างผม VS แฟชั่น
ผมมองว่าแฟชั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมันเป็นการบ่งบอกความเป็นตัวเอง เราสามารถสื่อสารตัวตนของเราออกมาทางการแต่งตัวได้ คนเดินผ่านจะรู้เลยว่าเราชอบเเต่งตัวแนวไหน ส่วนช่างผมทั้งหลายก็อยากให้ติดตามเทรนด์แฟชั่นด้วย เพราะสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานของเราได้
จากวัยรุ่นธรรมดาที่ไม่มีพื้นฐานด้านการทำผม แต่เมื่อมีโอกาสเข้ามา เขากล้าที่จะคว้ามันเอาไว้ พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น และพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง บวกกับการสร้างเอกลักษณ์และสไตล์แฟชั่นที่โดดเด่น รวมไปถึงการให้ความสำคัญและเลือกสรรสิ่งดีๆ ให้ลูกค้า เราเชื่อว่าในอนาคต “พู่กัน-ศุภชิต พ้นเคราะห์” แห่งร้าน Tensai Salon จะสามารถก้าวไปอยู่แถวหน้าของวงการช่างผมเมืองไทยได้อย่างแน่นอน