จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 ในปัจจุบัน ที่ส่งผลกระทบต่อกิจการร้านทำผม และเสริมสวย ทั้งในด้านของการขาดรายได้ และความเชื่อมั่นในด้านความปลอดภัย เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 63 ได้มีการรวมตัวของ 5 สมาคมช่างผมไทย และ 1 สมาพันธ์ ช่างทำผม ประกอบไปด้วย ดร.สมศักดิ์ ชลาชล นายกสมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย, ดร.ทศพร นพวิชัย อุปนายกสมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย, นายปฏิวัติ บารมีอนันต์ นายกสมาคมช่างผมมืออาชีพแห่งประเทศไทย, นายณัฐวัฒน์ ปิยะศิริภัณฑ์ นายกสมาคมช่างผมเสริมสวยแห่งประเทศไทย, นายอนันต์ เชียงสอน นายกสมาคมเสริมสวยแห่งประเทศไทย, นางสาวสมเพชร ศรีชัยโย นายกสมาคมพัฒนาส่งเสริมอาชีพเสริมสวยตัดผมไทย และดร.ณรงค์ ศรีเกรียงทอง ประธานสมาพันธ์เครือข่ายช่างผมเสริมสวยและความงามนานาชาติ ร่วมด้วย คุณปิยะวัลย์ วงศ์สว่าง บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Hairworld Plus+, ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) , นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นางสาวอุษณี กังวารจิตต์ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และ รศ.ดร.มาลินี ศรีอริยนันท์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ได้เข้าร่วมหารือแนวทางการเยียวยา และแก้ไขปัญหาให้กับธุรกิจเสริมสวยในสถานการณ์ COVID-19 ร่วมกับ ผศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุม พร้อมกับยื่นหนังสือถึง ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอช นายกรัฐมนตรี ผ่าน ผศ.ดร.อิสระ. เสรีวัฒนวุฒิ เรื่องขอความอนุเคราะห์ การพิจารณาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจร้านเสริมสวย ในสถานการณ์ COVID-19 ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ 412 ชั้น 4 ตึกใหม่ อาคารรัฐสภา
โดยมีประเด็นสำคัญของการประชุมที่เกี่ยวกับ แนวทางการช่วยเหลือธุรกิจร้านทำผมทุกระดับที่ได้รับผลกระทบนี้ โดยเฉพาะร้านทำผมขนาดเล็ก ให้มีความเข้าใจ และความสำคัญในเรื่องสุขอนามัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ และอุปกรณ์ใช้ทำความสะอาดและป้องกัน อาทิ เจลแอลกอฮอล์ รวมถึง “ตู้อุ่นใจ” ที่ได้รับการพัฒนาโดย อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นตู้ฉายรังสี UV ที่ได้รับการทดสอบว่าสามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ในเวลา 5 นาที ซึ่งตัวต้นแบบนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ร้านทำผมขนาดเล็กไม่สามารถจะซื้อมาใช้ได้ จึงได้มีการพัฒนาการผลิตในราคาที่ถูกลงประมาณตู้ละ 2,000 บาท และยังมีการเสนอให้ ช่างผมได้รับการอบรม และจัดให้มีการสอนผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคโควิด-19 รวมไปถึงขั้นตอนการทำความสะอาดร้านให้ถูกสุขลักษณะ และรายละเอียดต่างๆ โดยจะใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อผู้ประกอบการเรียนจบหลักสูตร จะมีใบรับรอง (Certificate) มอบให้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ
นอกจากนี้ทางด้าน นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนางสาวอุษณี กังวารจิตต์ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ยังได้มีการหารือเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาอาชีพให้กับผู้หญิง พัฒนาช่างทำผมที่อยู่ในต่างจังหวัด โดยจะมีการเดินทางเข้าไปให้ความรู้ในท้องที่ เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับข้อปฏิบัติในการเปิดร้านอย่างถูกต้องในช่วงวิกฤตเช่นนี้ เป็นต้น และยังมีอีกหลายมาตรการในการประชุมหารือ เพื่อที่จะช่วยเหลือช่างผมไทยในทุกๆ ด้าน เพื่อให้ช่างผมยังสามารถที่จะประกอบกิจการได้ ถือว่าการประชุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของทุกภาคส่วนในการหาทางช่วยเหลือข่างผมอย่างแท้จริง
สำหรับผู้ประกอบการ ช่างผมสามารถ ติดตามข่าวสารหรือข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ ได้ที่ HairworldPlus+ เพราะเรามีทั้งข้อมูลอัปเดตและสารพันความรู้ที่ช่างผมอย่างคุณไม่ควรพลาด